ผู้เขียน หัวข้อ: อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังได้รับอาหารสายยาง  (อ่าน 42 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 958
    • ดูรายละเอียด
อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังได้รับอาหารสายยาง
« เมื่อ: วันที่ 8 ธันวาคม 2025, 21:26:04 น. »
อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังได้รับอาหารสายยาง

อาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังได้รับอาหารทางสายยางเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของ ภาวะลำไส้ไม่ทนต่ออาหาร (Feeding Intolerance) และเป็นอาการที่ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่ง เพราะเพิ่มความเสี่ยงของการสำลัก (Aspiration) เข้าสู่ปอดค่ะ


🤢 สาเหตุหลักของอาการคลื่นไส้และอาเจียน

อาการนี้มักเกิดจากการที่กระเพาะอาหารรับอาหารได้ไม่ทัน หรืออาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป:

อาหารค้างในกระเพาะอาหารมากเกินไป (High Gastric Residual Volume - GRV): เป็นสาเหตุหลัก หมายความว่ากระเพาะอาหารมีการบีบตัวช้า (Delayed Gastric Emptying) และไม่สามารถย่อยอาหารมื้อก่อนหน้าได้ทัน

การให้อาหารเร็วเกินไป: การให้อาหารแบบเป็นรอบ (Bolus) ด้วยอัตราที่เร็วเกินไปในครั้งเดียว ทำให้กระเพาะอาหารขยายตัวอย่างรวดเร็วและกระตุ้นการอาเจียน

การจัดท่าไม่ถูกต้อง: การให้อาหารขณะที่ผู้ป่วยนอนราบหรือศีรษะต่ำ ทำให้เกิดการไหลย้อนกลับ (Reflux) ของอาหารได้ง่าย

ความเย็นของอาหาร: การให้อาหารที่เย็นจัดอาจทำให้เกิดการหดเกร็งของกระเพาะอาหาร

ความเข้มข้นของสูตรอาหาร: หากสูตรอาหารมีความเข้มข้น (Osmolarity) สูงเกินไป อาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้

ยาบางชนิด: ยาบางกลุ่ม เช่น ยาแก้ปวด (Opioids) หรือยาที่ส่งผลต่อการบีบตัวของลำไส้ อาจทำให้กระเพาะอาหารเคลื่อนไหวช้าลง


🛠️ การจัดการและแก้ไขอาการคลื่นไส้/อาเจียน

1. การดำเนินการทันทีเมื่อเกิดอาการ (Immediate Action)

หยุดให้อาหารทันที: ปิดจุกสายยางทันทีเพื่อหยุดการไหลของอาหาร

จัดท่าให้ถูกต้อง: ตรวจสอบและจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่า ศีรษะสูง 30–45 องศา หรือถ้าอาเจียนให้รีบจัดผู้ป่วย นอนตะแคง เพื่อป้องกันการสำลัก

ทำความสะอาดช่องปาก: หากมีการอาเจียน ให้เช็ดทำความสะอาดช่องปากและใบหน้าอย่างระมัดระวัง


2. การป้องกันการเกิดซ้ำ (Prevention)

ชะลออัตราการไหล: หากใช้การให้อาหารแบบ Bolus ให้ลดความเร็วลงอย่างมาก (ใช้เวลา 20–30 นาทีต่อมื้อ)

ปรับเปลี่ยนไปให้อาหารต่อเนื่อง: ปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนไปใช้วิธี ให้อาหารแบบต่อเนื่อง (Continuous Feeding) ด้วยปั๊ม เพื่อลดภาระของกระเพาะอาหาร

ตรวจสอบอาหารค้าง: หากอาหารค้างในกระเพาะมีปริมาณมากเกินเกณฑ์ (ตามที่พยาบาลแนะนำ) ควรแจ้งแพทย์เพื่อพิจารณา ลดปริมาณอาหาร หรือ ให้ยาช่วยเร่งการบีบตัวของกระเพาะอาหาร (Prokinetics)

สำคัญที่สุด: หากอาการอาเจียนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และไม่สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับอัตราการไหล ต้องปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อทำการประเมินและปรับสูตรยาหรือสูตรอาหารค่ะ