ผู้เขียน หัวข้อ: ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อผ้ากันไฟ ในโรงงาน  (อ่าน 38 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 832
    • ดูรายละเอียด
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อผ้ากันไฟ ในโรงงาน
« เมื่อ: วันที่ 9 มิถุนายน 2025, 14:01:27 น. »
ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อผ้ากันไฟ ในโรงงาน

การเลือกซื้อผ้ากันไฟสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่การเลือกผ้าที่ "ไม่ไหม้ไฟ" เท่านั้นครับ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเพื่อให้ได้ผ้าที่เหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุดสำหรับการใช้งานเฉพาะทางของโรงงานคุณ นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:

1. วัตถุประสงค์และการใช้งาน (Application)
นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพราะจะกำหนดคุณสมบัติอื่นๆ ตามมา:

ใช้สำหรับงานเชื่อม/เจียร (Welding Blankets/Spark Shields): ต้องการผ้าที่ทนทานต่อสะเก็ดไฟร้อนจัดและการกระเด็นโดยตรง
ใช้ทำผ้าม่านกันไฟอัตโนมัติ (Automatic Fire Curtains): ต้องการผ้าที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานการทนไฟตามระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 60 นาที, 120 นาที) และมีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
ใช้หุ้มฉนวนอุปกรณ์อุณหภูมิสูง (Removable Insulation Jackets): ต้องการผ้าที่ทนความร้อนสูงต่อเนื่อง และทนทานต่อการถอดเข้า-ออก
ใช้เป็นผ้าห่มดับไฟฉุกเฉิน (Emergency Fire Blankets): ต้องการผ้าที่พับเก็บง่าย หยิบใช้สะดวก และสามารถคลุมตัวคนได้
ใช้เป็นส่วนประกอบของเสื้อผ้าป้องกัน: ต้องเป็นผ้าที่ปลอดภัยต่อผิวหนัง ไม่ระคายเคือง และผ่านการรับรองมาตรฐานเสื้อผ้าป้องกัน


2. อุณหภูมิที่ต้องทน (Temperature Resistance)
อุณหภูมิใช้งานต่อเนื่อง (Continuous Working Temperature): อุณหภูมิสูงสุดที่ผ้าสามารถคงคุณสมบัติและโครงสร้างได้ตลอดการใช้งานปกติ
อุณหภูมิสูงสุดที่ทนได้ชั่วคราว (Peak Temperature / Short-term Exposure): อุณหภูมิสูงสุดที่ผ้าสามารถทนได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนจัดหรือเปลวไฟโดยตรงในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ประกายไฟเชื่อม ซึ่งอาจสูงกว่าอุณหภูมิใช้งานต่อเนื่องมาก
ตัวอย่าง: งานเชื่อมสะเก็ดไฟอาจสูงถึง 1,000°C - 1,500°C (แต่มักเป็นการสัมผัสชั่วคราว)


3. ประเภทวัสดุผ้า (Material Composition)

วัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียและช่วงอุณหภูมิที่ทนได้ต่างกัน:

ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric):
ข้อดี: ราคาเข้าถึงง่าย, ทนความร้อนปานกลาง (ประมาณ 550°C - 800°C)
ข้อควรพิจารณา: ใยผ้าอาจระคายเคืองผิวหนังได้ (คัน) หากไม่เคลือบสาร
ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric):
ข้อดี: ทนความร้อนสูงมาก (ประมาณ 1,000°C - 1,200°C), ทนสะเก็ดไฟได้ดีเยี่ยม
ข้อควรพิจารณา: ราคาสูงกว่าใยแก้ว
ผ้าใยแก้วเคลือบสาร (Coated Fiberglass/Silica Fabric):

ข้อดี:
เคลือบซิลิโคน (Silicone Coated): เพิ่มความทนทานต่อสะเก็ดไฟ (ทำให้สะเก็ดไฟกลิ้งหลุดง่าย), กันน้ำ/น้ำมัน, ลดการคัน, เพิ่มความทนทานต่อการฉีกขาด (ทนอุณหภูมิผิวเคลือบประมาณ 260°C - 280°C แต่ตัวผ้าใยแก้ว/ซิลิก้าภายในยังคงทนความร้อนสูงได้)
เคลือบ PU (Polyurethane Coated): เพิ่มความทนทานต่อการขีดข่วน, กันน้ำ, มักใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
เคลือบเวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite Coated): เพิ่มคุณสมบัติการทนความร้อนและการไม่ติดไฟที่ดีขึ้น
ข้อควรพิจารณา: คุณสมบัติจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบและปริมาณการเคลือบ


4. มาตรฐานและการรับรอง (Standards & Certifications)
นี่คือสิ่งสำคัญที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่แท้จริง:

ISO 11611: สำหรับเสื้อผ้าป้องกันงานเชื่อม
NFPA 701 (National Fire Protection Association): มาตรฐานการทดสอบการลามไฟของสิ่งทอที่ใช้ในอาคาร (สำหรับผ้าม่าน, ผ้าแขวน)
ASTM E84 (American Society for Testing and Materials): มาตรฐานการทดสอบคุณสมบัติการเผาไหม้ที่พื้นผิว (การลามไฟและความหนาแน่นของควัน)
EN Series (European Standards): เช่น EN ISO 11612 (เสื้อผ้าป้องกันความร้อนและเปลวไฟ), EN 13501-1 (การจัดประเภทการตอบสนองต่อไฟสำหรับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง)
ควรขอเอกสารรับรอง (Test Reports / Certificates) จากผู้จำหน่าย


5. ความหนาและน้ำหนัก (Thickness & Grammage)
ความหนา (Thickness): มักระบุเป็น มม. (mm)
น้ำหนักต่อตารางเมตร (Grammage / GSM): มักระบุเป็น กรัม/ตร.ม. (g/m²)
หลักการ: ผ้าที่หนาและมีน้ำหนักมาก มักจะทนความร้อนได้ดีกว่าและทนทานกว่า แต่ก็จะหนักและมีราคาสูงกว่า ควรเลือกให้เหมาะสมกับความรุนแรงของงาน


6. ความทนทานทางกายภาพ (Physical Durability)
ทนต่อการฉีกขาด/แรงดึง (Tensile/Tear Strength): สำคัญสำหรับผ้าที่ต้องรับแรงหรือมีการเคลื่อนย้ายบ่อย
ทนต่อการเสียดสี (Abrasion Resistance): สำหรับผ้าที่ต้องถูกับพื้นผิวอื่นบ่อยๆ
ความยืดหยุ่น (Flexibility): สำคัญสำหรับผ้าที่ต้องคลุมรูปทรงซับซ้อน หรือพับเก็บ
ทนต่อสารเคมี/น้ำมัน: หากโรงงานมีสารเคมีหรือน้ำมัน ควรเลือกผ้าที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสิ่งเหล่านี้


7. ความปลอดภัยและสุขภาพ (Safety & Health)
ไม่คัน ไม่ระคายเคือง: โดยเฉพาะสำหรับผ้าที่พนักงานต้องสัมผัสบ่อย ควรเลือกแบบที่มีการเคลือบเพื่อลดการฟุ้งกระจายของเส้นใย
ไม่มีส่วนผสมของใยหิน (Non-Asbestos): ใยหินเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งถูกห้ามใช้แล้วในปัจจุบัน
ปล่อยควัน/ก๊าซพิษต่ำ: ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้จริง


8. งบประมาณและผู้จำหน่าย (Cost & Supplier)
ราคา: เปรียบเทียบราคาจากผู้จำหน่ายหลายราย แต่ต้องไม่แลกกับคุณภาพและความปลอดภัย
ชื่อเสียงผู้จำหน่าย: เลือกผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และสามารถให้คำแนะนำทางเทคนิค รวมถึงเอกสารรับรองสินค้าได้ครบถ้วน

การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบด้าน จะช่วยให้คุณเลือกซื้อผ้ากันไฟที่ตรงกับความต้องการใช้งานของโรงงานคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดครับ