ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยววัดกรุงเทพ 17 วัดสวย จนโลกตะลึง  (อ่าน 27 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 469
    • ดูรายละเอียด
เที่ยววัดกรุงเทพ 17 วัดสวย จนโลกตะลึง
« เมื่อ: วันที่ 27 กรกฎาคม 2024, 15:17:02 น. »
เที่ยววัดกรุงเทพ 17 วัดสวย จนโลกตะลึง

เราจะพาทุกคนไปเที่ยววัดในกรุงเทพ ไหว้พระ 17 วัด นอกจากได้บุญได้กุศลกลับบ้านแล้ว ยังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศกับวัดสวยงามกลางกรุงเทพกันด้วย ทริปเที่ยวกรุงเทพครั้งนี้สายมูต้องห้ามพลาด ไหว้พระ 17 วัดเสริมสิริมงคล พร้อมเก็บรูปสวย ๆ กันได้เลย


1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว

วัดในกรุงเทพที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทย “พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ
อย่าพลาดเข้าไปกราบไหว้สักการะและขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต หลังจากไหว้พระขอพรก็เดินชมจิตรกรรมฝาผนัง และความวิจิตรบรรจงของความปราณีตของสถาปัตยกรรมของไทย หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมัยแรกในการก่อตั้งวัด ​​​​​และของโบราณเอาความรู้ติดตัวกลับบ้าน เดินขยับไปด้านในอีกนิดจะพบกับพระบรมมหาราชวังผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทที่แสนงดงามเหนือคำบรรยาย

จุดเด่น : มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นสมบัติของชาติอันทรงคุณค่า สถาปัตยกรรมงดงาม
ตำแหน่งที่ตั้ง: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 8.30 - 15.30 น.


2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์

ไปสักการะพระพุทธไสยาสน์ และไหว้พระวิหารสี่ทิศ ซึ่งได้มีพระพุทธรูปสำคัญจากสี่หัวเมืองใหญ่สมัยรัชกาลที่ 1
นำมาประดิษฐานไว้ ทิศตะวันออกประดิษฐานพระพุทธมารวิชัย ทิศตะวันตก ประดิษฐานพระชินศรีมุนีนาถ ทิศเหนือประดิษฐานป่าลิไลย ทิศใต้ประดิษฐานพระชินราชวโรวาทธรรมจักร
มาเที่ยววัดในกรุงเทพวัดนี้วัดเดียวเหมือนได้ไปไหว้พระสี่ภาครวมมาประดิษฐานวัดเดียวเลย และแถมให้อีกอย่างสำหรับใครปวดเมื่อย วัดโพธิ์ต้นตำรับนวดไทย ใครได้นวดรับรองหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้งแน่นอน

จุดเด่น: เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงระดับโลก มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะเพื่อเป็นศิริมงคล
ตำแหน่งที่ตั้ง: 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 08.00 - 17.00 น.


3. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากับตำนานสงครามยักษ์วัดโพธิ์กับวัดอรุณ เรารู้จักกันดีว่า วัดแจ้ง แลนด์มาร์ควัดสวย ๆ ในกรุงเทพวัดหนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
มาแล้วต้องได้ขึ้นไปสักการะพระปรางค์วัดอรุณ สายฮิปสเตอร์ชอบไปถ่ายรูป เนื่องด้วยสีพาสเทลขององค์พระปรางค์ทำมาจากถ้วยชามเบญจรงค์และเปลือกหอย สวยโดดเด่นสะดุดตา สำคัญที่สุดอย่าลืมเข้าไปพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระประธานชื่อว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์
​​​​​​​ไหว้ขอพรท่านแล้วไปปล่อยนก ปล่อยปลา ก่อนเดินทางไปเที่ยววัดในกรุงเทพวัดต่อไปกันครับ

จุดเด่น: เป็นวัดที่มีชื่อเสียง สถาปัตยกรรมโดดเด่น มีทัศนียภาพที่สวยงาม ถ่ายรูปสวยมาก
ตำแหน่งที่ตั้ง: 34 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 08.00 – 18.00 น.
​​​​​​​

4. วัดระฆังโฆสิตาราม หรือ วัดระฆัง

วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ “พระประธานยิ้มรับฟ้า” แสนอ่อนโยนและมีเมตตา ภายในวัดมีตำหนักจันทน์หรือหอพระไตรปิฎกเป็นสถาปัตยกรรมสร้างในสมัยกรุงธนบุรี เดิมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นพระราชวรินทร์ตำแหน่งเจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี อีกทั้งยังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพุฒนาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีรูปหล่อของสมเด็จท่านไว้ให้เราได้กราบไหว้ด้วย ​​​​​มีความเชื่อหนึ่งกล่าวไว้ว่า
​​​​​​​“ไหว้พระวัดระฆัง มีคนนิยมชื่นชม มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดทั้งปี” ​​​​ดังนั้น ใครอยากชื่อเสียงโด่งดังมีคนชื่นชมต้องห้ามพลาดครับ

จุดเด่น : เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนานและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
​​​​​​​

5. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

อีกหนึ่งวัดสวย ๆ ในกรุงเทพ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อีกชื่อเรียกว่า วัดหินอ่อน “Mable Temple” วัดบนเหรียญห้าบาทของคนไทย เป็นที่รู้จักดีของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ มีความวิจิตรงดงามประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากอิตาลี ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช จำลองมาจากจังหวัดพิษณุโลก
​​​​​​​นอกจากจะได้ไปทำบุญเสริมศิริมงคลแล้ว ยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ หลายจุดที่ไม่ควรลืมเก็บรูปถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
จุดเด่น: มีสถาปัตยกรรมไทยโบราณอันวิจิตรงดงาม ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการวางแปลนแผนผังที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง
ตำแหน่งที่ตั้ง: 69 ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 6.00 – 17.00 น.
​​​​​​​

6. วัดชนะสงคราม

วัดในกรุงเทพที่เก่าแก่โบราณมากกว่าหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยอยุธยา มีประวัติว่าในครั้งที่พระมหากษัตริย์จะออกทำศึก มีการทำพิธีเพื่อสวดทำน้ำพระพุทธมนต์ก่อนออกศึก ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยขนาดใหญ่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเป็นประธานของอาคาร ล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปขนาดเล็กอีก 15 องค์ รวมเป็น 16 องค์ พระประธานมีพระนามว่า “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ” ​​​​​หรือชาวบ้านชอบเรียกว่า ‘หลวงพ่อปู่’ ใครอยากทำอะไรแล้วชนะก็มาอธิษฐานขอพรได้เลย

จุดเด่น: เป็นวัดที่มีความสำคัญและประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีความศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนต่างมากราบไหว้ขอพร
ตำแหน่งที่ตั้ง: 77 ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
​​​​​​​

7. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดภูเขาทอง

เริ่มต้นที่พระอุโบสถของวัด ซึ่งประดิษฐาน พระปางสมาธิองค์ใหญ่ ก่อนขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บนพระบรมบรรพต จำลอง
ซึ่งเป็นภูเขาหนึ่งเดียวในกรุงเทพมหานคร แปะแผ่นทองมณฑปด้านบนพระบรมบรรพต ไหว้จุดสะดือเมือง เวียนเทียนรอบภูเขาทอง แล้วขึ้นไปชมวิวเมืองรับลมให้ชื่นใจ
​​​​​​​ระหว่างทางลงแวะกราบนมัสการหลวงพ่อโตก่อนกลับ

จุดเด่น: เป็นวัดที่มีจุดชมวิวสวยมากแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถ่ายรูปสวยมาก
ตำแหน่งที่ตั้ง: 344 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 7.30 น. - 19.00 น.


8. วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร

เป็นอีกหนึ่งวัดในกรุงเทพที่ควรค่าแก่การมากราบไหว้ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของไทยซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักคือ พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา
สร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไทย สมัยกรุงสุโขทัยสมัยเดียวกับพระพุทธชินราช และทั้ง ๓ องค์เคยประดิษฐานอยู่ด้วยกัน ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก
​​​​​​​นอกจากนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทคู่บนศิลาแผ่นใหญ่สมัยสุโขทัย และพระไสยา (พระนอน) งดงามในแบบสมัยสุโขทัยอีกด้วย
จุดเด่น: สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะไทยและจีนอันงดงาม มีภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ เป็นภาพปริศนาธรรมฝีมือขรัวอินโข่ง จิตรกรไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีพระพุทธรูปและโบราณวัตถุสำคัญๆ มากมาย

ตำแหน่งที่ตั้ง: 248 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
​​​​​​​

9. วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่

ปิดท้ายด้วยวัดสวย ๆ ในกรุงเทพที่เรารู้จักกันดี วัดเล่งเน่ยยี่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีน หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับการแก้ปีชง เป็นการไหว้พระแบบจีน
มีเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ "ไท้ส่วย เอี๊ยะ" เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" ​​​​​​และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
​​​​​​​"ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เทพเจ้าเฮ่งเจีย พระเมตไตรยโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์กวนอิม "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า" รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์
จุดเด่น: เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนตามลัทธินิกายมหายานที่มีศิลปะงดงามและใหญ่ที่สุดในประเทศ
ตำแหน่งที่ตั้ง: 423 ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
​​​​​​​

10. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ความพิเศษคือ เป็นวัดที่มหาสีมาขนาดใหญ่ทำเป็นเสาศิลาจำหลักรูปสีมาธรรมจักรอยู่บนเสา ตั้งที่กำแพงวัดทั้ง 8 ทิศ จึงได้นามว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แปลว่าวัดซึ่งพระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างและเป็นวัดซึ่งมีมหาสีมาตั้งอยู่ งดงามด้วยสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกและตะวันตกเอาไว้ด้วยกัน โดยพระอุโบสถภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย ภายในเป็นแบบยุโรปผสมไทย ตกแต่งแบบโกธิคเหมือนโบสถ์คริสต์งดงามมาก มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ทรงระฆังคว่ำ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ลายเบญจรงค์ทั้งองค์ เหนือฐานพระเจดีย์มีซุ้มโดยรอบ รวม 14 ซุ้ม สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
จุดเด่น: เป็นวัดที่มีการจัดวางแผนผังอย่างงดงามและประดับประดาอย่างวิจิตรบรรจง มีสถาปัตยกรรมงดงามมาก
ตำแหน่งที่ตั้ง: 2 ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
​​​​​​​

11. วัดราชนัดดารามวรวิหาร

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี (ต่อมาเป็นพระอัครมเหสีองค์แรกของรัชกาลที่ 4) จึงทรงพระราชทานนามว่า วัดราชนัดดาราม เมื่อ ปี พ.ศ. 2386 มีความสวยงามโดดเด่นสะดุดตา ใครผ่านไปผ่านมาเป็นอดไม่ได้ต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป ด้านในวัดประกอบไปด้วย พระอุโบสถ พระวิหาร และศาลาการเปรียญ โดยรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทขึ้นแทนการสร้างเจดีย์ ความพิเศษ คือ เป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย สร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทมีบันไดวน 67 ขั้น สามารถเดินขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้าน บนได้ สถาปัตยกรรมภายในวัดมีความประณีตตามแบบศิลปะไทย พระอุโบสถมีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกงดงามมาก

จุดเด่น: โลหะปราสาทของวัดแห่งนี้เป็นโลหะปราสาทหลังที่ 3 ของโลก และเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย
ตำแหน่งที่ตั้ง: 2 ถนนมหาไชย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
​​​​​​​
12. วัดพิชัยญาติการาม

อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนาน ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานพุทธ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าย่านวงเวียนเล็ก เดิมเป็นวัดร้าง สร้างตั้งแต่สมัยใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจน แต่ได้ถูกปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ครั้งมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราว พ.ศ. 2372-2375 ความสวยงามของสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้คือศิลปะแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีการค้าขายกับชาวจีน พระอุโบสถไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันทั้งสองข้างเป็นลายมังกรประดับกระเบื้อง และลายดอกไม้ประดับกระเบื้อง องค์พระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยรุ่นเดียวกับพระพุทธชินราช นามว่า “พระสิทธารถ” อัญเชิญมาจากวัดวิหารทอง จังหวัดพิษณุโลก หรือชาวบ้านเรียกขานว่า “หลวงพ่อสมปรารถนา” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างมากเพราะเชื่อกันว่าท่านประทานพรให้สำเร็จสมปรารถนาทุกคน

จุดเด่น: สถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีนอันโดดเด่นสง่างาม ทรงคุณค่าทั้งด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม
ตำแหน่งที่ตั้ง: ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 2 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน ตลอดทั้งวัน
​​​​​​​

13. วัดโฝวกวงซัน

ไปยลความสวยงามสุดตื่นตาตื่นใจของวัดจีนในไทยกันบ้าง “วัดโฝวกวงซัน” หรือ “สถาบันพุทธศาสนา เถรวาท-มหายาน” เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ก่อตั้งขึ้น ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน เมื่อ พ.ศ. 2510 เพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาให้แพร่หลาย ไปทั่วโลก โดยขยายสาขาไปสู่ประเทศต่าง ๆ กว่า 200 แห่งรวมทั้งประเทศไทย ภายในวัดประกอบไปด้วย วิหารกลาง วิหารพระอวโลกิเตศวร ห้องวิปัสสนา ห้องเรียนพุทธศาสนา หอพระไตรปิฎก(ห้องสมุด) หอฉัน หอระฆัง หอกลอง ห้องประชุม และเรือนรับรอง เมื่อเดินเข้าไปจะเห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ ตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมไต้หวันอันงดงาม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพหลายองค์ให้ไปสักการะขอพร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” หรือบริเวณองค์เจ้าแม่กวนอิมสีทองอร่ามสูงเด่นสง่างาม ต้องไม่พลาดไปกราบให้ท่านประธานโชคลาภก่อนเดินทางกลับ
จุดเด่น: สถาปัตยกรรมอันงดงามตระการตา ยิ่งใหญ่อลังการ ถ่ายรูปสวย
ตำแหน่งที่ตั้ง: 55 ถนนคู้บอน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
​​​​​​​

14. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า "วัดจอมทอง" หรือ "วัดเจ้าทอง" หรือ "วัดกองทอง" โดยพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงสถาปนาวัดจอมทองขึ้นใหม่ เนื่องจากเมื่อครั้งยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ในปี พ.ศ. 2363 ทรงหยุดพักและทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงคราม พร้อมทรงอธิษฐานขอให้การทัพครั้งนี้ได้ชัยชนะ หลังจากทรงเลิกทัพกลับพระนคร จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่ และถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงพระราชทานนามใหม่ว่า ‘วัดราชโอรส’ อันหมายถึงวัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนา ความพิเศษคือ โบสถ์ วิหาร ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ โดยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งต่าง ๆ เป็นแบบไทยผสมผสานศิลปะจีน ซึ่งวัดแห่งนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปกรรมแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 นั่นเอง
จุดเด่น: นับว่าเป็นวัดแรกที่ตกแต่งด้วยศิลปะจีนผสมผสานกับศิลปกรรมไทยได้อย่างงดงามจนเป็นที่เลื่องลือ
ตำแหน่งที่ตั้ง: 258 ซอยเอกชัย 4 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
​​​​​​​

15. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างมาแต่ครั้งสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เดิมชื่อว่า “วัดสามจีน” โดยมีเรื่องเล่าขานกันว่าชาวจีน 3 คน เป็นเพื่อนกันเป็นผู้สร้างวัดขึ้น โดยมีสถาปัตยกรรมในรูปทรงแบบจีน ศิลปะทรงพระราชนิยมในแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ความพิเศษ คือ “พระมหามณฑป” ที่ประดิษฐาน "พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อทองคำ" อันโดดเด่นและงดงาม สร้างด้วยทองคำแท้ ได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊คว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานคือ พระพุทธทศพลญาณ ผู้คนทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อโต" หรือ "หลวงพ่อวัดสามจีน" พุทธศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอ รวมถึงศูนย์ประวัติศาสตร์ นิทรรศการ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวัดและการกำเนิดพระพุทธรูปต่างๆ ให้เยี่ยมชมอีกด้วย

จุดเด่น: มีพระพุทธรูปทองคำที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊คเมื่อปี พ.ศ.2534 ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตำแหน่งที่ตั้ง: 661 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
วันเวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
​​​​​​​

16.วัดพระศรีมหาอุมาเทวี - กรุงเทพฯ

วัดฮินดูในกรุงเทพฯ ที่คนมากมายต่างเคารพบูชา มีเทพมากมายให้บูชา แต่ถ้าอยากขอเรื่องโชคลาภ ต้องขอพรกับ 'พระแม่ลักษมี' ผู้ขึ้นชื่อเรื่องโชคลาภมากที่สุด
ทริคมูให้รวย : สวดบทบูชาพระแม่ลักษมี บอกชื่อ-นามสกุล ตามด้วยถวายเครื่องสักการะ ได้แก่ ดอกบัว หรือดอกไม้อื่นสีชมพู หรือแดง จำนวน 8 ดอกตามพระปางทั้ง 8 ของแม่ลักษมี, ขนมรสมัน เช่น ขนมโมทกะ ขนมลาดู, ผลไม้รสอ่อน เช่น มะพร้าว แอปเปิ้ล สาลี่, น้ำแดง, น้ำอ้อย และธูปหอม


17.วัดอินทารามวรวิหาร

ชวนเปลี่ยนโหมดจาก Cafe Hopping ที่คุ้นเคยมาเป็น Temple Hopping เปิดประสบการณ์ใหม่กรุงเทพมหานคร กับ Hidden Temple ท่องวัดลับย่าน #บางยี่เรือ พบความ Amazing ในมุมมองใหม่แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ผ่านแสง สี และเสียงอันงดงามกับ 3 วัดแรกในย่านตลาดพลู ได้แก่ วัดอินทารามวรวิหาร ที่ถ่ายทอดเรื่องราวพระพุทธศาสนาในรูปแบบร่วมสมัยร่วมกับจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร

📍การเดินทาง
🚄รถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร / MRT สถานีท่าพระ
🚆รถไฟไทย สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู
🛥️เรือโดยสาร : ขึ้นจากท่าเรือบางหว้า ลงท่าเรือวัดอินทาราม / ขึ้นจากท่าเรือสะพานพุทธ ลงท่าเรือวัดอินทาราม