มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024 เปิดตัว New Mini Cooper SE พลังมอเตอร์ 218 แรงม้า วิ่งได้ 402 กม. ราคา 1.699 ลบ. พร้อมเซอร์ไพร์สอีก 3 รุ่น!New Mini Family 4 รุ่น เปิดโลกดิจิทัลสุดลํ้า พร้อมเสริมความเร้าใจด้วยลุคใหม่สุดไอคอนิก นําทัพโดย มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 5 ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 3 ประตูที่ยังคงความเร้าใจในแบบโกคาร์ท พร้อมการพัฒนาอย่างรอบด้าน
MINI SE
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ราคาจำหน่าย: 1,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พรอมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ราคาจําหน่าย: 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบํารุงรักษา MSI Standard 3 ปี หรือ 60,000 กม.
มินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม ราคา: 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบํารุงรักษา MSI
มินิ เอซแมน เอสอี ใหม่ ราคา: รอการประกาศอย่างเป็นทางการในงาน MINI Expo เร็ว ๆ นี้
New Mini Cooper SE พลังไฟฟ้าล้วน ดีไซน์ล้ำอนาคตกว่าเดิม อับเกรทใหม่เพิ่มพลังและระยะทางที่มากกว่า....มินิกลับมาปฏิวัติวงการยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอีกครั้ง ด้วย มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ นับเป็น มินิ คูเปอร์ เจเนอเรชันที่ 5 พร้อมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ในดีไซน์มินิมอลสุดล้ำ พร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบ "Electrified Go-Kart" ที่ยังคงสนุก เร้าใจ สร้างนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดระดับพรีเมียม ยกระดับภาพลักษณ์ของมินิที่มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น เปิดราคา 1,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
แรงขึ้น วิ่งไกลขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ผสมผสานระบบการขับเคลื่อนที่ไม่สร้างมลพิษให้เข้ากับความสนุกจากการขับขี่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ยกแผงจากขุมพลังของมอเตอร์พลังงานไฟฟ้าพละกำลังรวมสูงสุด 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.7 วินาที จากแบตเตอรี่ที่มีความจุพลังงาน สุทธิ 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุดที่ 95 กิโลวัตต์ โดยสามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีระยะการขับขี่สูงสุดถึง 402 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP
ดีไซน์ล่าสุดของมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ “ความเรียบง่ายอันทรงเสน่ห์”
รูปลักษณ์ภายนอกที่ลดทอนชิ้นส่วนเพื่อความสวยงามยิ่งขึ้น ดีไซน์ภายนอกยังคงสื่อถึงแก่นแท้ของความเป็นมินิในตำนาน โดยยังคงมาในรูปทรงที่กะทัดรัด ช่วงหน้ารถที่สั้นและคล่องตัว แต่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่าย พื้นผิวตัวถังราบเรียบทรงพลัง และคงกลิ่นอายขององค์ประกอบการดีไซน์จากรุ่นคลาสสิกในตำนานผสานกับความล้ำสมัยในสไตล์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง มือจับประตูได้รับการดีไซน์ใหม่ให้ราบเรียบไปกับตัวรถ เรียบง่าย ตัวถังปราศจากซุ้มล้อและไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถ จึงช่วยเสริมดีไซน์โดยรวมให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น และส่งให้โฉมภายนอกดูโฉบเฉี่ยวเตะตายิ่งกว่าที่เคย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่มาในรูปทรงแปดเหลี่ยมในสีใหม่ Vibrant Silver เสริมเส้นสายการดีไซน์ที่คมชัดยิ่งขึ้น
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมกับไฟหน้าทรงกลมและไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมลูกเล่นปรับรูปแบบได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมด Classic โหมด Favoured และโหมด JCW รวมถึงการเพิ่มลูกเล่นอนิเมชันตอนปลดล็อคและล็อครถซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัว ยิ่งทำให้บุคลิกของรถโดดเด่นตรงกับสไตล์ของผู้ขับขี่มากยิ่งขึ่น
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารสไตล์มินิมัล ที่ถูกออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวแก่ผู้ขับขี่ พร้อมฟีเจอร์ตอบรับยุคดิจิทัล
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบสไตล์มินิมัล ที่ยังคงความคลาสสิกและเรียบง่ายของมินิ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมินิรุ่นคลาสสิกจากปี 1959 โดยเน้นเพียงองค์ประกอบที่สำคัญ แต่ยังคงสามารถมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ได้อย่างครบครัน มาพร้อมจอกลางแบบใหม่
โดยเป็นหน้าจอ OLED ความละเอียดสูงทรงกลมเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์ บริเวณกึ่งกลางคอนโซล ทำหน้าที่เป็นทั้งแผงหน้าปัดและศูนย์กลางระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในการขับขี่จากหน้าจอแสดงผล Head-up Display ด้านหลังพวงมาลัย ช่วยลดขนาดหน้าจอแดชบอร์ด OLED จอหลัก และช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนและครอบคลุมที่สุด
แผงควบคุมดีไซน์ใหม่ Toggle Bar ที่รวบรวมทุกฟังก์ชันสำคัญสำหรับการขับขี่เอาไว้ในจุดเดียว ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงเบรกมือ เกียร์รถ สวิตซ์สตาร์ทหรือดับครื่องยนต์ สวิตซ์เลือกรูปแบบ Experience Mode รวมถึงตัวปรับความดังของเสียงลำโพงได้จากปลายนิ้ว ผสมผสานงานดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เข้ากับฟังก์ชันด้านการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้สอยบริเวณระหว่างที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าให้มีช่องวางแก้วและช่องเก็บของที่ใหญ่ขึ้น
พวงมาลัยแบบสามก้าน โดยก้านที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นสายผ้าถักสไตล์ใหม่ไม่ซ้ำใครหน้าปัดคอนโซลทรงโค้ง หุ้มด้วยผ้าสองสีที่ได้รับการถักทอจากโพลีเอสเตอร์ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ผ่านกระบวนการถักทอที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้พื้นผิวผ้าที่เหมาะกับทุกสถานการณ์การใช้งานและดูแลรักษาได้ง่าย เพื่อรองรับกับสมาร์ท ไลฟ์สไตล์และการใช้งานอุปกรณ์มือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยังสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายผ่านจุดชาร์จไร้สายบริเวณด้านหน้าคอนโซลที่มีพื้นที่กว้างขวาง
ชุดแต่ง Favoured Trim เสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
โฉบเฉี่ยวด้วยล้อ 18 นิ้ว ลาย Slide spoke สี 2-tone และกระจังหน้ารูปทรงแปดเหลี่ยม ตกแต่งด้วยสี Vibrant Silver เสริมความเป็นเอกลักษณ์ของมินิ ช่วยทำให้ด้านหน้ารถดูทรงพลังยิ่งขึ้น แผงคอนโซลรถหุ้มด้วยผ้าถักลวดลาย Houndstooth สองสี นอกจากนี้ ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลยังได้รับการห่อหุ้มด้วยพื้นผิวผ้าทอและลวดลายสายคาด ชุดแต่ง Favoured Trim นี้มาพร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต Vescin สี Nightshade Blue
งานออกแบบที่ตอบรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกองค์ประกอบ
มินิให้ความสำคัญในการผสานความสมดุลระหว่างสมรรถนะรถ การออกแบบอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากการใช้หนังสัตว์ภายในห้องโดยสาร การใช้วัตถุดิบจากวัสดุรีไซเคิล โดยเบาะหนังแบบ Vescin สามารถส่งมอบทั้งรูปลักษณ์ ผิวสัมผัส และการใช้งานระดับพรีเมียมได้อย่างครบครัน วัสดุที่ใช้ถักทอผ้าแบบเรียบสองมิติ ซึ่งใช้ในแดชบอร์ด คอนโซล แผงด้านในประตูรถ และฝาช่องเก็บของ ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ซึ่งรีไซเคิลกว่า 90% ล้ออลูมิเนียมในเจเนอเรชันใหม่ของมินินี้ ผลิตจากอลูมิเนียมรีไซเคิลสูงสุดถึง 70%
หน้าจอแสดงผล MINI Interaction Unit ผ่านจอ OLED ความละเอียดสูงที่จะมาปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่
มินิโฉมใหม่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลม ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการยานยนต์ ส่งมอบภาพความละเอียดสูง คมชัด และมีฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน โดยหน้าจอแสดงผล MINI Interaction unit จะอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางคอนโซลด้านหน้ารถ ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่นั่งของคนขับมากขึ้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 240 มม. เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างสะดวกง่ายดายที่สุด นอกจากนี้ MINI Interaction Unit ยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ MINI Operation System 9 ที่ตอบสนองการสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ หน้าจอจะแสดงผลข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่อย่างครบครัน เช่น อัตราความเร็วในการขับขี่ ระดับพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันด้านการนำทาง มีเดีย โทรศัพท์ และการดูข้อมูลสภาพอากาศได้อย่างง่ายดายไม่ต่างกับการใช้งานสมาร์ทโฟน
ประสบการณ์มินิแบบใหม่: โหมดการใช้งาน MINI Experience ใหม่ล่าสุด
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมกับโหมดการใช้งาน MINI Experience ที่มีให้เลือกใช้ถึง 7 รูปแบบ แต่ละโหมดมาพร้อมดีไซน์เสียง Jingle เสียงสร้างบรรยากาศขณะขับขี่และแสงสีที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในรถที่แตกต่างกัน ได้แก่
Core Mode: โหมดหลักซึ่งเน้นการแสดงผลหน้าจอเมนูหลัก มาพร้อมกับไอคอนวิดเจ็ตที่ดูโดดเด่นตามสไตล์มินิ ในเฉดสี Laguna โดดเด่นแต่ไม่ฉูดฉาด ให้ความรู้สึกที่ล้ำสมัย เรียบหรู โดยแสงไฟภายในห้องโดยสารและการแสดงภาพจะปรับเปลี่ยนสีสันให้เข้ากับโทนสีนี้โดยอัตโนมัติ
Go-Kart Mode: โหมดที่ปลุกจิตวิญญาณแห่งความเป็นมอเตอร์สปอร์ต เน้นความเร้าใจด้วยสมรรถนะขั้นสุด หน้าจอ MINI Interaction Unit แสดงผลมาตรวัดความเร็วในสไตล์สปอร์ตเต็มรูปแบบ พร้อมข้อมูลเฉพาะสำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต การตอบสนองของคันเร่งได้รับการออกแบบให้เหมาะกับอารมณ์การขับขี่ของสายสปอร์ต โดยมาพร้อมกับเสียงเอฟเฟกต์การขับรถในแบบ ‘Go Kart’ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยระดับเสียงและโทนเสียงที่ปรับเปลี่ยนตามรอบเครื่องยนต์ ให้ความรู้สึกราวกับกำลังบังคับรถโกคาร์ท พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างทรงพลัง
Green Mode: โหมดที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะเน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ให้ความสำคัญกับการมอบระยะทางการขับรถที่สูงที่สุด จากระบบการจัดการพลังงานส่วนเกินกลับไปที่แบตเตอรี่เมื่อผู้ขับขี่ทำการเบรคหรือชะลอความเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเทคนิคการขับอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแสดงผลมาตรวัดพลังงานที่เข้าใจได้ง่ายบนหน้าจอ
Balance Mode: โหมดที่มีความพิถีพิถันที่สุด ทั้งในแง่ของแสงสี อนิเมชัน และรูปแบบการแสดงผลที่สื่อถึงความสงบ โดยเสียงของรถในโหมด Balance ได้รับการออกแบบโดยอิงจากเสียงธรรมชาติต่าง ๆ ของป่าในเวลากลางวันและกลางคืน
Timeless Mode: สัมผัสกลิ่นอายแห่งตำนานมินิ สู่ยุคดิจิทัล ด้วยฟ้อนท์แบบ Serif และมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ เสียงการขับขี่ในโหมดนี้บันทึกไล่เรียงจากมินิ คลาสสิกไปจนถึงมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี ผสมผสานกับเสียงของ มินิ ‘Core’ สร้างสุนทรียภาพด้านเสียงที่เดินทางผ่านกาลเวลา
Vivid Mode: โหมดที่เน้นเรื่องการนำเสนอคอนเทนท์เป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ “Color Grabber” ที่ดึงสีสันจากหน้าปกอัลบั้มของเพลงที่กำลังเล่นอยู่ มาปรับใช้ในการแสดงผลแสงสีผ่านดีไซน์ของหน้าจอ พร้อมการฉายภาพและไฟบรรยากาศในห้องโดยสารให้รับกับสีสันบนหน้าจอ
Personal Mode: โหมดที่เปิดให้เจ้าของรถสามารถปรับแต่งภาพพื้นหลังบนหน้าจอแสดงผลของ MINI Interaction Unit ของตัวเองได้ ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน MINI App โดยโหมดนี้ยังใช้งานเทคโนโลยี Color Grabber เพื่อวิเคราะห์ภาพที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ เพื่อปรับแต่งไฟภายในห้องโดยสาร และการแสดงผลบนหน้าจอแดชบอร์ดให้เข้ากัน
บริการด้านดิจิทัล และแพ็คเกจ MINI Connected
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ มาพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของมินิ โดยสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการพูดว่า “Hey MINI” หรือการกดปุ่ม push-to-talk ที่พวงมาลัย ซึ่งหน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลมจะแสดงผลโต้ตอบผ่านอนิเมชันกราฟิก ตัวอักษร และอวาตาร์ โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ตัวเลือกในแบบ “MINI” หรือทำการอัปเกรดแพ็คเกจ MINI Connected เพื่อปลดล็อคน้องหมา “Spike” สุดน่ารักมาเป็นตัวแทนของ MINI Intelligent Personal Assistant
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ใช้งานระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 ซึ่งได้รับการออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่มีความน่าตื่นเต้นตามสไตล์มินิ ทั้งยังใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยมีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการ Android Open Source Project (AOSP) ทั้งนี้ ระบบปฏิบัติการดังกล่าวยังทำงานร่วมกับระบบนำทาง MINI Navigation ที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อคำนวนข้อมูลเส้นทางได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วที่สุด รวมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี 5G อีกด้วย นอกจากนี้ ระบบนำทาง MINI Navigation ยังมาพร้อมแพ็คเกจเสริมที่รองรับการแสดงผลภาพแผนที่ในรูปแบบภาพ 3 มิติที่สมจริง สำหรับสถานการณ์การเข้าโค้งที่มีความซับซ้อน
ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 ยังมาพร้อมกับแอปสโตร์ในชื่อว่า MINI Connected Store ที่ช่วยให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้อย่างหลากหลายจากผู้ให้บริการจากภายนอกรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงหรือการใช้งานต่าง ๆ ทั้งแอปพลิเคชันเพลง วิดีโอสตรีมมิ่ง หรือเกม นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน AirConsole ยังจะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมผ่านหน้าจอ OLED โดยใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นจอยเกมได้อีกด้วย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ล่าสุดที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของคุณสะดวกง่ายดาย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) ในมินิโฉมใหม่ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันด้านการช่วยเหลือการจอดรถอัตโนมัติ Parking Assistant และกล้องแสดงภาพด้านท้ายรถ ทั้งยังมีออปชันเสริม Driving Assistant Plus ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและปลอดภัยกว่าที่เคยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัยต่าง ๆ เช่น Adaptive Cruise Control
มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมม MINI Digital Key Plus ที่จะทำให้เจ้าของรถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของตัวเองให้เป็นกุญแจรถ ปลดล็อค/ล็อครถได้โดยไม่ต้องพกกุญแจและไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมา โดยแสงไฟต้อนรับด้านหน้าและด้านหลังรถมินิจะเปิดทำงานทันทีเมื่อเจ้าของรถเข้ามาใกล้ในระยะ 3 เมตร และประตูจะปลดล็อคให้ในระยะ 1.5 เมตร
New Mini Cooper SE ตอนโจทย์ชีวิคนเมืองมากขึ้น คล่องตัว พร้อมเทคโนโลยีครบครัน ฟังก์ชั่นใช้งานคุ้มค่า ในแบบฉบับของรถยนต์ "มินิ คูเปอร์" เพิ่มไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมให้กับการเดินทางไม่จำเจอีกต่อไป มาพร้อมราคา 1,699,000 บาท
ข้อเสนอพิเศษสำหรับมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่*
สำหรับลูกค้าที่จอง มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ผ่านช่องทางออนไลน์ และมีกำหนดรับมอบรถภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 จะได้รับแพ็คเกจ MINI Connected ฟรี 1 ปี*
ลูกค้าที่จอง มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ และทำสัญญาทางการเงินกับ มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม โดยมีกำหนดรับมอบรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 รับข้อเสนอผ่อนต่อเดือนเริ่มต้น 11,555 บาท/เดือน*
สำหรับลูกค้าเก่าและลูกค้าปัจจุบันที่มีสัญญาทางการเงินกับ มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย เมื่อจอง มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ และทำสัญญาทางการเงินกับ มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม โดยมีกำหนดรับมอบรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 รับข้อเสนอขยายแพ็คเกจรับประกัน MINI Extended Protect (Extended warranty) สูงสุด 2 ปี (มูลค่ารวม 25,970 บาท)*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ MINI Contact Center 1397
เซอร์ไพร์สอีก 3 รุ่นใหม่ในครอบครัว มินิ คูเปอร์
มินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม่
ราคา: 3,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
*รถคันที่จัดแสดงในงานไม่ใช่สเป็คที่จะจำหน่ายในประเทศไทย
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของตระกูลคันทรีแมน ด้วยมินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม่ ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์ด้านการออกแบบใหม่ล่าสุด ในปรัชญาเดียวกับมินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ แต่ผสานความโดดเด่นของรถยนต์แบบออฟโรดอเนกประสงค์ รถยนต์สำหรับครอบครัว และความสนุกสนานของประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้มลพิษเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวในคันเดียว
ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จึงได้รับการปรับแต่งให้ส่งพละกำลังสูงสุดถึง 230 กิโลวัตต์ / 313 แรงม้า ส่งแรงบิดสูงสุด 494 นิวตันเมตร สู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ ALL4 ที่สามารถเร่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.6 วินาที และยังทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ได้รับการยกระดับความจุให้เป็น 66.45 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC กำลังไฟ 11 กิโลวัตต์ และการชาร์จแบบกระแสตรง DC สูงสุดที่ 130 กิโลวัตต์ และมีระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 432 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
มินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม่ สืบทอดบุคลิกที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของคันทรีแมน ด้วยพื้นผิวตัวถังที่เฉียบคม แต่ยังคงกลิ่นอายขององค์ประกอบด้านการออกแบบสุดคลาสสิกของมินิ ทั้งช่วงล้อหน้าและฝากระโปรงหน้าที่สั้น ตัดกับฐานล้อที่ยาว ขนาดมิติตัวถังและฐานล้อมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีความยาว 4,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,843 มิลลิเมตร สูง 1,635 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,692 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปทรงแปดเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้า LED และระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบแสงไฟตามโหมด Signature ต่าง ๆ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลาย Windmill Spoke ดีไซน์ทูโทน โดดเด่นด้วยหลังคาในสีใหม่ Vibrant Silver พร้อม Panorama Glass Roof เข้ากับกรอบกระจังหน้า ฝาครอบกระจกข้าง ล้อ เสา C รวมถึงชิ้นส่วนภายนอกอื่น ๆ ในสีเดียวกัน
ภายในของ มินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม่ มาในปรัชญาการออกแบบใหม่เช่นเดียวกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ โดยบริเวณแผงแดชบอร์ดหุ้มด้วยผ้าถักในสี Dark Petrol รับกับเบาะ John Cooper Works Sport Seats สี Vintage Brown มาพร้อมระบบเสียง Harman Kardon surround sound เพื่อความบันเทิงที่เต็มอิ่มในทุกการเดินทาง
มินิ คันทรีแมน เอสอี ใหม่ ยังมาพร้อมองค์ประกอบหลักและฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับใน มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 5 อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลม MINI Interaction Unit โหมดการใช้งาน MINI Experience ที่มีอีกหนึ่งโหมดพิเศษเพิ่มมาจาก 7 โหมดในมินิ คูเปอร์ เอสอี คือ โหมด Trail ที่เน้นความเร้าใจสำหรับสายแอดเวนเจอร์ มาพร้อมฟังก์ชั่นอย่าง เข็มทิศ และกราฟฟิกต่าง ๆ ในระบบ Navigation เสริมฟีลลิ่งแบบออฟโร้ด และยังมีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ MINI Intelligent Personal Assistant และฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อันหลากหลายบนระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 รวมถึงแผงควบคุมดีไซน์ใหม่ในแบบ Toggle Bar ที่รวบรวมทุกฟังก์ชันสำคัญของการขับขี่เอาไว้ในจุดเดียวเพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าถึงได้ง่าย และครบครันด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง ระบบช่วยจอด Parking assistant Plus, Drive Recorder, กล้องรอบคัน Surround view และอื่น ๆ อีกมากมาย
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ มาให้แฟน ๆ ชาวไทยเป็นเจ้าของในจำนวนจำกัดเพียง 5 คัน ผสมผสานสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังในแบบฉบับของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เข้ากับจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของรถมินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยกระดับทุกประสบการณ์การเดินทางให้พิเศษและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณสปอร์ต ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 233 กิโลวัตต์ / 317 แรงม้า ส่งแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สู่ล้อทั้งสี่ ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ ALL4 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.26 เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการขับบนท้องถนนหรือเส้นทางออฟโรด ส่งผลให้มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ เร่งความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่บ่งบอกถึงบุคลิกที่ดูสปอร์ตและดุดัน สะท้อนให้เห็นจุดเด่นทั้งด้านสมรรถนะและความอเนกประสงค์ของตัวรถ โดยแผ่นสะท้อนแสงแนวตั้งบริเวณด้านหน้ารถ ยังช่วยเน้นย้ำถึงความกว้างของตัวรถ ไฟหน้า LED มินิดีไซน์ใหม่ พร้อมแถบไฟแนวนอนอันเป็นเอกลักษณ์จากโหมด JCW Signature ยิ่งช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ของรถยนต์แบบ Sports Activity Vehicle
ส่วนกระจังหน้าดีไซน์ใหม่รูปทรงแปดเหลี่ยมที่ตกแต่งด้วยสีดำ High-gloss Black และโลโก้ JCW ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยเสริมให้ดีไซน์มีความทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความมินิมอลที่ทั้งเรียบง่ายแต่โดดเด่น สะกดทุกสายตาบนท้องถนน
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสีตัวถังสีพิเศษ Legend Grey ซึ่งตัดกันอย่างโดดเด่นกับหลังคาสีแดง Chili Red ที่มาพร้อมกระจก Panorama และกระจกมองข้างสีแดงที่บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ในขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลาย John Cooper Works Flag Spoke ในแบบทูโทน ก็ช่วยดึงความโดดเด่นให้กับตัวรถ ส่วนท้ายรถยังมาพร้อมกับไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ในโหมด JCW Signature อันเป็นเอกลักษณ์ สอดรับกับตัวถังด้านหลังทรงตั้งตรงที่ช่วยตอกย้ำถึงความกว้างของตัวรถ
ห้องโดยสารของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อตอกย้ำถึงความกว้างขวางและโอ่อ่า ตกแต่งด้วยสีแดงและสีดำบริเวณคอนโซล แผงประตู และเบาะนั่งแบบสปอร์ต ที่หุ้มด้วยหนังวีแกน Vescin และเนื้อผ้า ผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัวและสะท้อนถึงจิตวิญญาณรถแข่งของจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดตั้งแต่ 505-1,530 ลิตร
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังมาพร้อมกับหน้าจอกึ่งกลางคอนโซลแบบ OLED ทรงกลม ความละเอียดสูง อันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ เจเนอเรชันที่ 5 รองรับโหมดการใช้งาน MINI Experience และแผงควบคุมดีไซน์ใหม่ในรูปแบบ Toggle Bar ที่รวบรวมทุกฟังก์ชันสำคัญสำหรับการขับขี่เอาไว้ในที่เดียว รวมทั้งยังสามารถสั่งงานด้วยเสียง เพื่อควบคุมฟังก์ชันสำคัญต่าง ๆ เช่น ระบบนำทาง โทรศัพท์ และระบบความบันเทิงต่าง ๆ ในรถได้เช่นกัน
เพื่อตอกย้ำทิศทางใหม่ของยนตรกรรมมินิ ในเจเนอเรชันที่ 5 มินิ ประเทศไทย ยังได้เผยโฉม มินิ เอซแมน เอสอี เป็นครั้งแรกสำหรับตลาดประเทศไทย ในฐานะรถยนต์ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า 100% ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการใช้ขับขี่ภายในเมือง มาเติมเต็มอีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าที่มองหาอีกหนึ่งตัวเลือกระหว่างมินิ คูเปอร์ และมินิ คันทรีแมน โดดเด่นด้วยการออกแบบขนาดตัวรถที่เน้นประโยชน์พื้นที่ใช้สอยสูงสุด ในขนาดที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป และดีไซน์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่มินิบนท้องถนนให้สนุกเหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย
มินิ เอซแมน เอสอี พกพาทั้งความคล่องตัวของครอสโอเวอร์ขนาดเล็กด้วยความยาวตัวรถเพียง 4.07 เมตร แต่ยังเพียบพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยสำหรับทุกสถานการณ์แบบรถ 5 ที่นั่ง ปรัชญาการดีไซน์ยังคงความเรียบง่ายแต่มากสเน่ห์เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ในเจเนอเรชั่นใหม่ แต่มีองค์ประกอบที่ไม่ซ้ำใครอย่างรูปทรงไฟหน้า การออกแบบเส้นสายบริเวณซุ้มล้อ กราฟฟิกไฟท้ายเฉพาะสำหรับรุ่นเอซแมน รวมถึงการออกแบบชิ้นส่วนกรอบสีดำบริเวณกันชนท้ายช่วยตอกย้ำเอกลักษณ์ของมินิ เอซแมนยิ่งขึ้น ส่วนการออกแบบภายใน ยังเน้นย้ำประสบการณ์ดิจิทัลล้ำสมัยผ่านจอ OLED ทรงกลมเช่นเดียวกับมินิรุ่นอื่น ๆ พร้อมแผง Toggle Bar และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน
มินิ เอซแมน เอสอี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาด 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เช่นเดียวกับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ใหม่ ให้พละกำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า ส่งแรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็ว ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 7.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC กำลังไฟ 11 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลา 5.45 ชั่วโมง และการชาร์จแบบกระแสตรง DC สูงสุดที่ 95 กิโลวัตต์ ที่ทำความเร็วในการชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลา 31 นาทีเท่านั้น