สวัสดีครับกลับมาพบกันเป็นวันที่สองนะครับกับคอลัมน์พาเที่ยว วันนี้เรายังอยู่กันที่เชียงรายนะครับ ที่ต่อมาที่ผมจะพาไปเที่ยว เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่พึ่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันไม่นานมานี้เองครับ คือหมู่บ้านผาฮี้ ใช้เวลาเดินทางจากสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ทรงงานดอยตุงไม่ไกลมาก
แค่ประมาณ 20 นาทีเองครับ เส้นทางนี้ต้องผ่านดอยช้างมูบ เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างแคบและอันตราย ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังกันนะครับ ถนนเส้นนี้จะสวยมากเพราะเป็นเส้นเลียบสันเขาใกล้กับแนวตะเข็บชายแดน ไทย-พม่า ทางด้าซ้ายมือจะเห็นแนวสันเขากั้นพรมแดน ไทย-พม่า ซึ่งสวยงามมากๆเลยครับ หมู่บ้านผาฮี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งลดหลั่นกันไปบนไหล่เขา วิวจากหมู่บ้านแห่งนี้จะมองเห็นดอยตุงที่เรามาอยู่ทางขวา และผาหมีอยู่ทางด้านซ้ายมือ หมู่บ้านแห่งนี้จึงอยู่ระหว่างภูเขาทั้งสองลูกพอดีชาวบ้านผาฮี้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ที่มีการแต่งตัว ภาษา ความเชื่อ วัฒนธรรม และอาหารการกินเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งในอดีตที่นี่ประสบปัญหาการถางป่า ทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝิ่น แต่พอปี พ.ศ.2523
ทางรัฐบาลไทยเข้ามาสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกกาแฟตามสโลแกนที่ว่าปลูกกาแฟดีกว่าปลูกฝิ่น แต่ช่วงแรกก็ยังประสบปัญหาเรื่องการเพาะปลูกเพราะชาวบ้านไม่ค่อยมีความรู้ จนปีพ.ศ.2531 โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้ามาในหมู่บ้าน และส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลักพร้อมถ่ายทอดความรู้โดยให้ชาวบ้านเข้าไปเรียนรู้การปลูกกาแฟที่ศูนย์วิจัยทดลองกาแฟของโครงการพัฒนาดอยตุง จนชาวบ้านได้พัฒนาการปลูกกาแฟ และรวมกลุ่มกัน จนทำให้ปัจจุบันกาแฟของผาฮี้เป็นกาแฟคุณภาพดี โดยได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดพืชสวนนานาชาติในงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2554 เป็นรางวัลการันตี เมื่อเราเข้ามาในหมู่บ้านเราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านผาฮี้ที่ทำกาแฟเป็นอาชีพหลักตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บ การล้าง การตาก โดยที่เราสังเกตุเห็นที่ตากกาแฟทำจากไม้ไผ่ยกพื้นสูงอยู่ทั่วทั้งหมู่บ้าน พร้อมทั้งมีคุณตาคุณยายมานั่งคัดเมล็ดกาแฟกันอยู่ด้านบน
ก่อนจะไปสู่ขั้นตอนการบ่มและการคั่วส่งให้ร้านกาแฟในหมู่บ้านและการจำหน่ายไปทั่วประเทศอีกทั้งยังส่งต่อไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย กาแฟที่ชาวบ้านผาฮี้ปลูกนั้นเป็นกาแฟที่ชาวบ้านผาฮี้ปลูกนั้นเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้า 100% ค่ะ ด้วยความสูง 1,200 – 1,400 เหนือระดับน้ำทะเลอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้กาแฟอาราบิก้าของที่นี่มีคุณภาพมากๆ โดยจะมีกลิ่นหอมอโรม่า มีรสหอม หวาน คล้ายผลไม้ ซึ่งร้านกาแฟที่ดอยผาฮี้นั้นมีให้เลือกชิมกาแฟสดหอมๆกว่าสิบร้าน จากนั้นนั่งรถสองแถวจากตัวหมู่บ้านมายังสะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้ค่ารถไปกลับคนละ 20 บาทเท่านั้น โดยสามารถให้พี่คนขับรถมารับได้ตามจุดที่เราต้องการ รถกระบะพาเรามาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงจุดที่เป็นสะพานไม้ไผ่
ที่เขาทำเป็นสะพานทอดยาวไปตามแนวสันเขา พร้อมด้วยร่มหลากสีเรียงไปตามแนวสะพานทอดยาวประมาณ 300 เมตร รอบข้างก็จะเต็มไปด้วยต้นกาแฟ ตัวสะพานจะไปสุดที่ร้านกาแฟไร่ผาฮี้ ที่มีบริการกาแฟสดและอาหารพื้นเมืองไว้คอยต้อนรับและให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ผาฮี้เชียงราย
การเดินทาง : สามารถมาได้ 2 เส้นทางค่ะจากตัวเมืองแม่สาย ขับรถมาทางดอยผาหมี จากผาหมีขับมาประมาณ7กิโลเมตรก็จะมาถึงดอยผาฮี้เส้นทางที่สองขับมาทางดอยตุงค่ะ จะผ่านดอยช้างมูบ ระยะทางจากดอยตุงไปประมาณ 11 กิโลเมตร
ที่พัก
ร้านกาแฟที่เปิดให้บริการหลายๆร้านส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการเป็นโฮมสเตย์ เช่นร้านกาแฟดอยผาฮี้ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าร้านร่มแดง ร้านต่อมาคือร้านผาฮี้วัลเล่ย์ ร้านนี้เป็นร้านกาแฟกึ่งอาหารเพราะเชฟที่นี่เรียนจบจากออสเตรเลีย จึงทำให้มีทั้งสเต๊ก พิซซ่า สปาเก็ตตี้ อีกทั้งยังมีอาหารชนเผ่าไว้บริการอีกด้วย โฮมสเตย์ที่นี่ส่วนใหญ่จะราคา800บาทต่อคน รวมอาหารเช้ากับอาหารเย็นที่เป็นอาหารพื้นเมืองไว้บริการอีกด้วย
ส่วนพรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่เชียงรายจุดไหนต่อโปรดติดตามต่อไปครับ
สถานที่ท่องเที่ยวไทย ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย หมู่บ้านผาฮี้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://xn--72c5ab8bza6azdwe3cf.cc/