ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีลดอาการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนเพลีย ให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า  (อ่าน 56 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 472
    • ดูรายละเอียด
ความเหนื่อยล้าเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย วิถีชีวิตในแต่ละวันก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน คุณสามารถลองใช้ 5 เคล็ดลับต่อไปนี้ เพื่อลดอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงระหว่างวันเพื่อแก่ไขและฟื้นฟูอาการอ่อนเพลียของคุณให้กระฉับกระเฉง เพิ่มพลังในแต่ละวันของคุณได้

หากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญปัญหาจากความอ่อนเพลียซึ่งไม่มีท่าที่จะดีขึ้นแม้จะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว คุณอาจมีอาการป่วยแฝงอยู่ในอาการเหนื่อยล้า เราขอแนะนำให้คุณปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี


1. เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ

แม้ว่าเวลาที่ผู้คนเหนื่อย การออกกำลังกายจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คนเรานึกถึง แต่จากการศึกษางานวิจัย ได้แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายช่วยทำให้รู้สึกตื่นตัว ลดความง่วงนอน อ่อนล้าได้

ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการออกกำลังกายที่หนัก เพียงคุณหาเวลาหยุดพักและลุกจากโต๊ะทำงานชั่วโมงละครั้งเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น ขึ้นลงบันไดแทนใช้ลิฟต์ เดินไปเติมน้ำหรือชงชา กาแฟ หรือเพียงแค่ยืดเส้นยืดสายที่โต๊ะทำงานของคุณ
เพราะการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในทุกวันจะช่วยให้คุณต่อสู้กับความเหนื่อยล้าได้ในระยะยาว

หากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญปัญหาจากความอ่อนเพลียซึ่งไม่มีท่าที่จะดีขึ้นแม้จะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว คุณอาจมีอาการป่วยแฝงอยู่ในอาการเหนื่อยล้า เราขอแนะนำให้คุณปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี



2. ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

ภาวะขาดน้ำมีบทบาทอย่างมากที่ทำให้คนเรารู้สึกไม่มีแรง อ่อนเพลีย จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการขาดน้ำทำให้ความตื่นตัวและสมาธิลดลง

โดยทั่วไปแล้วจะแนะนำให้ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับ 2 ลิตร ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถปรับเปลี่ยนปริมาณการดื่มน้ำต่อวันให้เทียบเท่ากับ 2 ลิตรได้ในทันที ดังนั้นสามารถเริ่มจากก้าวเล็กๆเช่น ดื่มน้ำเมื่อคุณเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าหรือหมดแรง


3. กินถี่ขึ้น โดยแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยเล็กๆระหว่างวัน

การกินถี่ขึ้น สำหรับบุคคลบางกลุ่ม อาจได้รับประโยชน์จากการรับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ บ่อยขึ้นในระหว่างวัน เนื่องจาก สามารถช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณคงที่ ทำให้คุณรู้สึกมีแรงหรือพลังงานได้

การมีของว่าง/อาหารมื้อเล็กๆ ทุกๆ 2 ชั่วโมงนั้นดีต่อสุขภาพหากเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ผักและผลไม้ ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสีเป็นยาบำรุงที่ดีสำหรับร่างกายอ่อนเพลีย


4. เข้านอนเร็ว

การอดนอนถือเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า หรือง่วงนอน ระหว่างวัน แต่ละช่วงวัยนั้นมีจำนวนชั่วโมงที่ควรใช้สำหรับการนอนหลับพักผ่อนแตกต่างกัน ซึ่งผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ต้องการการนอนหลับโดยเฉลี่ย 7 – 9 ชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกพักผ่อนเพียงพอ

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่คุณใช้สำหรับนอนหลับอยู่เป็นประจำยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่สดชื่นและพักผ่อนอย่างเต็มที่หลักตื่นนอนอีกด้วย โดยสิ่งนี้เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต" ร่างกายของคุณจะเคยชินกับตารางการนอน ดังนั้นหากคุณเข้านอนและตื่นในเวลาที่แตกต่างกันตลอดทั้งสัปดาห์ก็จะรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น ดังนั้นจึงควรที่จะเข้านอนในเวลาเดิมทุกครั้ง

วิธีเพิ่มความสดชื่นในเวลาเร่งด่วน หากคุณนอนหลับไม่เต็มอิ่มก่อนเริ่มงาน ลองงีบหลับสัก 10 นาทีในช่วงพักกลางวันเพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่สมอง อย่างไรก็ตามไม่ควรงีบเกิน 30 นาทีเพราะอาจมีปัญหาในการนอนในคืนนั้นเอาได้


5. คลายเครียด

การอดนอนถือเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า หรือง่วงนอน ระหว่างวัน แต่ละช่วงวัยนั้นมีจำนวนชั่วโมงที่ควรใช้สำหรับการนอนหลับพักผ่อนแตกต่างกัน ซึ่งผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ต้องการการนอนหลับโดยเฉลี่ย 7 – 9 ชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกพักผ่อนเพียงพอ

นอกจากนี้ ช่วงเวลาที่คุณใช้สำหรับนอนหลับอยู่เป็นประจำยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่สดชื่นและพักผ่อนอย่างเต็มที่หลักตื่นนอนอีกด้วย โดยสิ่งนี้เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต" ร่างกายของคุณจะเคยชินกับตารางการนอน ดังนั้นหากคุณเข้านอนและตื่นในเวลาที่แตกต่างกันตลอดทั้งสัปดาห์ก็จะรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น ดังนั้นจึงควรที่จะเข้านอนในเวลาเดิมทุกครั้ง

วิธีเพิ่มความสดชื่นในเวลาเร่งด่วน หากคุณนอนหลับไม่เต็มอิ่มก่อนเริ่มงาน ลองงีบหลับสัก 10 นาทีในช่วงพักกลางวันเพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่สมอง อย่างไรก็ตามไม่ควรงีบเกิน 30 นาทีเพราะอาจมีปัญหาในการนอนในคืนนั้นเอาได้



วิธีลดอาการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนเพลีย ให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

xarari

  • บุคคลทั่วไป