แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 52
1
การจัดฟันเด็ก ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง
 
ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองมักคิดว่า ฟันน้ำนมไม่สำคัญ เพราะเดี๋ยวก็มีฟันแท้ขึ้นมาแทน ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะฟันน้ำนมของเด็กนั้น มีบทบาทสำคัญมาก ต่อลักษณะการขึ้นของฟันแท้ ซึ่งถ้าหากไม่ดูแลรักษาฟันตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ในอนาคต ในปัจจุบันวงการทันตกรรมมีการพัฒนาไปมาก จึงมีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า การจัดฟันในเด็ก ซึ่งเด็กในวัยประถมก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น เพราะในหลายปัญหาอาจสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดความรุนแรงได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

นอกจากนี้ ในวัยรุ่นบางคนที่มีปัญหาเรื่องขนาดขากรรไกร และทันตแพทย์จัดฟันอาจไม่แนะนำ ให้เสี่ยงจัดฟันในตอนนี้ เนื่องจากอาจทำให้ความผิดปกติยิ่งแย่ลงไปอีก แต่จะให้รอดูอาการก่อน แต่การเข้ารับการจัดฟัน ได้รับความนิยมมากในวัยรุ่น เพราะนอกจากจะเป้นเทรนยอดฮิตแล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี ซึ่งการจัดฟันก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ


ซึ่งแต่ละรูปแบบนั้น ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป และมีผลการรักษาที่ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น หากจะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องพาบุตรหลานเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟัน ทันตแพทย์ก็จะพิจารณาปัญหาและใช้รูปแบบการจัดฟันในเหมาะสมกับปัญหาเพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ในการเข้ารับการจัดฟัน หลายคนที่อยากจะจัดฟัน อาจจมีความกังวลว่า การจัดฟันนั้น จะส่งผลต่อชีวิตประจำวันหรือไม่ แน่นอนว่า การจัดฟันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ในแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
 
สำหรับวันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็ก ว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือและปรับตัวระหว่าการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ในการจัดฟันในเด็กนั้น ทันตแพทย์จัดฟันอาจพิจารณาให้ใช้เครื่องมือแบบถอดเข้าออกได้ หรืออาจจะใช้เครื่องมือแบบติดแน่นมัดด้วยยางที่มีสีสันต่างๆ แบบที่เราเห็นกันทั่วไป โดยการใช้เครื่องมือแบบถอดเข้าออกได้ มีข้อเสียที่สำคัญคือ มันต้องอาศัยความร่วมมือของเด็ก


หากเด็กไม่ยอมสวมใส่เครื่องมือตามทีทันตแพทย์แนะนำ ก็จะทำให้การรักษาก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นในเด็กบางคน ทันตแพทย์จึงใช้เครื่องมือแบบติดแน่นแทน ดังนั้น ตัวเครื่องมือการจัดฟันในเด็กแบบติดแน่นนั้น จึงส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร และการทำความสะอาดของช่องปากและฟัน เพราะการที่เด็กมีเครื่องใอการจัดฟันอยู่ภายในปาก ทำให้เด้กรับประทานอาหารได้ลำบากมากขึ้น


อาจจะทำให้เด็กเกิดอาการเบื่ออาหาร หรือแม้กระทั่งการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ก็ทำได้ยากยิ่งขึ้น เพราะเด็กบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจในการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองคงรที่จะแนะนำสอนเด็กให้ทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันกานรเกิดฟันผุ และอีกเรื่องหนึ่งที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันก็คือ เด็กอาจจะต้องระมัดระวังในการเล่นกิจกรรมที่ต้องมีการปะทะเช่น เล่นบาสเกตบอล เล่นฟุตบอล หรือกิจกรรมอื่นๆที่เสี่ยงที่จำทำให้เด็กเกิดอุบัติเหตุได้


ดังนั้น ก็ต้อระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจจะทำให้เด้ได้รับอันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการจัดฟันในเด็กอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กบ้างในบางเรื่อง แต่ผลลัพธ์ของการจัดฟันในเด็ก ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะจะทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมาชาติได้ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
"NEWTECH INSULATION" ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
"เพราะเรา...เข้าใจเรื่องเสียง"


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


4
ปล่อยรถราคาพิเศษ BMW i5 M60 XDrive M Sport โปรโมชั่น รับรถ 0 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู BMW i 5 M60 xDrive ปี 2023
BMW i5 M60 xDrive เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญภายใต้พันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยูในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนกว่าผ่านทั้งการลดมลภาวะขณะขับขี่และในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูด้วยบริการสุดพิเศษอย่าง Proactive Care ที่เสริมความอุ่นใจด้วยระบบการเชื่อมต่อกับยานพาหนะขั้นสูง ที่จะทำให้เราสามารถส่งมอบบริการการให้คำปรึกษาของเราจากทางไกล เพื่อวิเคราะห์ยานยนต์ได้จากระยะไกล หรือโทรหา Call Centre ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด พร้อมมอบความแรงถึงขีดสุดด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพลังงานไฟฟ้า BMW xDrive Electric กับชุดมอเตอร์ที่ให้กำลังขับถึง 601 แรงม้า และแรงบิด 795 นิวตันเมตร หรือสูงสุดกว่า 820 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost หรือ M Launch Control ทั้งหมดนี้ ทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยพลังจากชุดแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังรถ ความจุพลังงานสุทธิ 81.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งทำให้มีระยะการขับขี่ถึง 455-516 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 466 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 21 ก.พ. - 28 ก.พ. 2568
โปรโมชั่น รับรถ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 43,xxx บาท
รถมีจำนวนจำกัด

ราคาพิเศษ 3,990,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทั่วไป

มอเตอร์ไฟฟ้า                        มอเตอร์ไฟฟ้ามอบกำลังสูงสุดที่ 601 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดที่ 795 นิวตันเมตร และสามารถส่งแรงบิดได้สูงสุดถึง 820 นิวตันเมตรเมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost หรือ M Launch Control อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 3.8 วินาที

กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)           แรงม้า
ระบบเกียร์                             เกียร์อัตโนมัติ
รูปแบบเกียร์
ระบบเบรค ABS                      มี
ชนิดแบตเตอรี่                        ไฟฟ้า
ความจุแบตเตอรี่                     81.2 kWh
ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง      ระยะการขับขี่ถึง 455-516 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 466 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
น้ำหนักตัวรถ                        2,380 กก.
ประเภทยางรถยนต์                     -
ขนาดล้อ (นิ้ว)                      ล้ออัลลอย (BMW Individualaerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสีJet Black แบบสลับสี)
ระบบขับเคลื่อน                      ขับเคลื่อนสี่ล้อ (แบบพลังงานไฟฟ้า BMW xDrive Electric)



5
การจัดฟันเด็ก เจ็บหรือไม่

ในเรื่องของการเข้ารับการรักษาฟันในวัยเด็ก หลายคนก็เกิดความกลัวที่เข้ารับพบกับทันตแพทย์ เพราะการเข้ารับการรักษาฟันไม่ว่าจะเป็นการถอนฟัน การอุดฟัน อาจจะทำให้เด็กรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการรักษา บางคนอาจจะฝังใจทำให้เกิดความกลัว ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจึงจะต้องทำการพูดคุยหรือปลูกฝังให้เด็กได้ทราบถึงวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ให้เด็กได้ตระหนักถึงข้อดีของการดูแลรักษาสุขภาพฟัน และให้รู้ถึงข้อเสียของปัญหาที่เกิดจากการที่เด็กดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไม่ดี  คอยบอกให้เด็กได้ทราบว่า การที่เราจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีและแข็งแรงนั้น เราจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และถ้าหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณเตือนที่กำลังบ่งบอกว่ากำลังจะมีปัญหาในเรื่องของปัญหาช่องปากและฟัน ก็จะต้องรีบเข้ารับการรักษาทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต


อย่างไรก็ตาม ในวัยเด็กนั้น การเข้ารับการรักษาฟัน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ตั้งแต่บุตรหลานของท่านมีฟันน้ำนมเลยทีเดียว เนื่องจากฟันน้ำนมนั้น มีผลต่อการขึ้นของฟันแท้ อย่าคิดว่าฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ละเลยในการสอนให้บุตรหลานของท่านดูแลฟันน้ำนม เพราะคิดว่า เดี๋ยวฟันแท้ก็งอกขึ้นมา เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการรักษาความสะอาดฟันน้ำนมในเด็ก ก็มีความสำคัญไม่แพ้ฟันแท้เลย เพราะถ้าหากฟันแท้งอกขึ้นมาแล้วเกิดปัญหาในเรื่องของรูปร่างของฟันหรือลักษณะของฟัน นั่นก็คืออุปสรรคอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะอาจจะทำให้บุตรหลานของท่านมีสุขภาพฟันที่ไม่ดี มีฟันผุได้ เนื่องจากรูปร่างของฟันก็ส่งผลต่อการทำความสะอาดฟันเช่นกัน ดังนั้นหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของลักษณะฟัน ก็ควรที่เข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟัน


สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ความร่วมมือในการเข้ารับการรักษา เพราะเด็กหลายคนอาจจะมีความกลัวในเรื่องของการเข้ารับการรักษาที่เกี่ยวกับช่องปากและฟัน อาจจะกลัวเจ็บจึงไม่ยอมที่จะเข้ารับการจัดฟัน  แถมยังทำให้มีการจำกัดในเรื่องของการรับประทานอาหารและอาจจะส่งผลต่อการทำความสะอาดช่องปากและฟันด้วย ในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก เด็กๆอาจจะคิดว่า การจัดฟันนั้น ทำให้รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการจัดฟัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าการจัดฟันนั้น อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับผลการรักษาแล้วนั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก และวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กว่ามีความเจ็บปวดมากน้อยแค่ไหน และเราจะมีวิธี

การพูดอย่างไรเพื่อให้เด็กได้คลายความกังวลและตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากมาก ขั้นแรกอาจจะมีการตรวจเช็คประเมินช่องปาก เพื่อที่ทันตแพทย์จะได้ทำการวางแผนการรักษา หากเด็กมีฟันผุหรือปัญหาต่างๆ ก็อาจจะทำให้ทันตแพทย์พิจารณาให้เด็กเข้ารับการถอนฟันหรืออุดฟันเสียก่อน เพื่อที่ได้ไม่เกิดปัญหาระหว่างการจัดฟัน


ซึ่งนี่ถือว่าเป็นข้อดีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาฟันผุตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย หลังจากการเข้ารับการถอนฟัน แต่การเจ็บปวดในเรื่องของการถอนฟัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจออยู่แล้ว หลังจากนั้น 2-3 วันอาการเจ็บปวดก็จะหายไป เมื่อทันตแพทย์ติดเครื่องมือการจัดฟันภายในช่องปาก ก็อาจจะทำให่รู้สึกตึงๆ ในช่วงแรก หลังจากนั้นก็จะรู้สึกชินไปเองที่มีเครื่องมืออยู่ภายในช่องปาก ต้องบอกเลยว่า การจัดฟันในเด็กนั้น ถึงแม้ว่าอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดในระยะแรก แต่ก็ถือว่าช่วยแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้อย่างดีเลยทีเดียว

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือปรึกษาทันตแพทย์ที่คลินิกได้ ทางเราจะช่วยแนะนำในเรื่องของการพูดคุยกับเด็ก เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาในเรื่องของฟันว่าสุขภาพช่องปากและฟันถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

6
bigbike ดูคาติ Ducati Panigale V2 ปี 2025
719,000 บาท

ดูคาติ Ducati Panigale V2 ปี 2025
Ducati Panigale V2 ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่หมด เพื่อมอบประสบการณ์การการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมทั้งบนถนนและในสนามแข่ง ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่อย่าง Panigale V4 เริ่มจากไฟหน้าแบบ Daytime Running Light (DRL) รูปลักษณ์ที่ลงตัว ส่วนด้านหลังมีไฟท้ายที่เป็นดีไซน์อันโฉบเฉียวเหมือน Panigale V4 พร้อมเครื่องยนต์ V2 ที่ได้รับการพัฒนาให้ทรงพลังและน้ำหนักเบาที่สุดในรุ่น ยังคงมาในสีคอนเซ็ป Ducati Red พร้อมขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ V2 บล็อกใหม่ แบบ V-Twin 90 องศา ที่เบาที่สุดเท่าที่ Ducati เคยผลิตมา ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 54.4 กก. พร้อมขนาด 890 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิด 93.3 นิวตันเมตร ที่ 8,250 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะที่เต็มเปี่ยมทุกจังหวะการเร่ง และยังถูกออกแบบให้ทนทาน ช่วยยืดระยะการบำรุงรักษา (Maintenance Service) ให้นานยิ่งกว่าเดิม

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                Ducati
   รุ่น                     ดูคาติ Ducati Panigale V2 ปี 2025
   ประเภทรถ            รถสปอร์ตขนาดใหญ่, Sport Bigbike
   ปีที่เปิดตัว              2025
   ราคา                  719,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์           เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์             6 สปีด พร้อม Ducati Quick Shift (DQS)
   รายละเอียดเครื่องยนต์     Ducati V2 90องศา 4วาล์วต่อสูบ ระบบวาล์วแปรผันไอดี ให้กำลัง 120 แรงม้า
   ระบบระบายความร้อน       น้ำ
   ระบบสตาร์ท                  สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)     890 CC
   แบบเครื่องยนต์               4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด                Electronic
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง      แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน               หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)      15 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน              ล้อหน้า โช้คอัพแบบปรับได้ Marzocchi 43 มม., ล้อหลัง โช้คเดี่ยว Kayaba สวิงอาร์มอะลูมิเนียม
   ระบบเบรค                    ล้อหน้า ดิสก์เบรก (2 x 320 มม. คาลิปเปอร์ Brembo Monobloc M50 พร้อม Borsch Corning ABS), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (245 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบพร้อม Borsch Corning ABS)
   แบบวงล้อ                     อัลลอย
   ขนาดยาง                      ล้อหน้า 120/70 ZR17, ล้อหลัง 190/55 ZR17
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.)  ความสูงเบาะ 837 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                    179.00 กก.

7
จะรู้ได้อย่างไรว่าฉนวนกันความร้อน เสื่อมสภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง “ฉนวนกันความร้อนโรงงาน” หรือ “ฉนวนกันความร้อนสำหรับบ้าน” เป้าหมายสูงสุดของการติดตั้ง “ฉนวนกันความร้อน” ก็คือเพื่อป้องกันความร้อ นไม่ให้เข้ามาสะสมภายในโรงงาน อาคาร ที่อยู่อาศัย แต่ความสำเร็จที่หวังไว้นั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยหากอยู่ ๆ ไปแล้วฉนวนความกันความร้อนก็เสื่อมสภาพ

ดังนั้น เราจึงควรทราบเอาไว้เบื้องต้นว่า สัญญาณใดบ้างกันนะ ที่บ่งบอกว่าฉนวนเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว เพื่อดำเนินการจัดการแก้ไขต่อไป โดยสิ่งที่บ่งบอกว่าฉนวนเริ่มเสื่อมสภาพแล้วนั้น สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จาก 2 สัญญาณ ดังต่อไปนี้


1.ฉนวนเกิดการยุบตัว

สัญญาณที่สังเกตได้อย่างแรกสำหรับฉนวนกันความร้อนที่เสื่อมสภาพนั้น คือตัวเนื้อฉนวนจะมีการยุบตัวลง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ บางลงกว่าเดิมตอนที่ซื้อมาติดตั้งทีแรกนั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว การยุบตัวลงของฉนวนที่เสื่อมสภาพจะยุบลงประมาณ 10-20% ของเนื้อฉนวนเดิมเท่านั้น แต่ก็เพียงพอให้สังเกตเห็นได้ง่าย ๆ ด้วยตาเปล่า

ดังนั้น หากตรวจสอบพบว่าฉนวนบางลงกว่าเดิมหลังใช้งานไปสักระยะล่ะก็ อาจเป็นผลมาจากการที่ฉนวนไม่มีคุณภาพและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ


2.กันความร้อนได้แย่ลง

หน้าที่หลักของฉนวนกันความร้อนคือการทำให้ความร้อนเข้ามาในพื้นที่ไม่ได้ ดังนั้น เมื่อติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพแล้ว พื้นที่นั้น ๆ จะเย็นขึ้นอย่างรู้สึกได้ทันที และเช่นกัน หากฉนวนเสื่อมสภาพลง ก็เท่ากับความสามารถในการป้องกันความร้อนจะลดลง จากที่พื้นที่นั้นเคยเย็นสบาย ก็จะกลายเป็นร้อนขึ้นจนรู้สึกได้

ซึ่งถ้ารู้สึกแบบนี้เมื่อไรนั่นอาจเป็นสัญญาณของการที่ฉนวนเสื่อมแล้วก็ได้ และเมื่อเริ่มรู้สึกว่าพื้นที่นั้น ๆ ร้อนขึ้น และไปตรวจสอบดูสภาพของฉนวนกันความร้อนล่ะก็ จะพบว่า เนื้อฉนวนยุบตัวและบางลง อันเป็นการยืนยันสัญญาณเสื่อมสภาพได้เป็นอย่างดี


อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฉนวนกันความร้อนเสื่อมสภาพ

แน่อนว่าไม่ใช่อยู่ ๆ ฉนวนก็จะเสื่อมสภาพเอง โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของฉนวนกันความร้อนนั้นจะอยู่ที่ 10-20 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และสภาพแวดล้อมว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง โดยสาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพก็คือ “ความชื้น” หรือว่า “น้ำ” ไม่ว่าจะเป็นจากฝน หรือการกลั่นตัวเป็นไอเมื่อความเย็นจากเครื่องปรับอากาศในอาคารกระทบกับความร้อนปกติ โดยน้ำจะไปทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง

ดังนั้น ในการเลือกฉนวนกันความร้อนจึงควรเลือกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและความชื้นสูงด้วย อาทิ ฉนวนกันความร้อน ที่ใส่สาร HydoProtec หรือ สารไม่อุ้มน้ำในเนื้อฉนวน ทำให้ฉนวนกันความชื้น ไม่ดูดซับน้ำได้ดีกว่าฉนวนปกติทั่วไปถึง 10 เท่า จึงยืดอายุการใช้งานและการเสื่อมสภาพได้ยาวนานมากขึ้นนั่นเอง


หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดว่า ฉนวนกันความร้อนที่เสื่อมสภาพนั้นจะกลายเป็นฝุ่นผง และเป็นอันตราย จึงมีคนส่วนหนึ่งเลยที่ไม่ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ทำให้บ้าน อาคาร โรงงานร้อน สิ้นเปลืองพลังงาน แต่ในความเป็นจริงสัญญาณของการเสื่อมสภาพนั้นต้องดูที่ความสามารถในการกันความร้อนที่ลดลง และเนื้อฉนวนที่ยุบตัวบางลงเป็นสำคัญ ส่วนฝุ่นผงที่หลุดจากเนื้อฉนวนนั้นอาจเกิดจากการกัดแทะของแมลง หนู หรือสัตว์รำคาญอื่น ซึ่งจะไม่ได้เป็นอันตรายเลยถ้าเลือกใช้ฉนวนที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อย่างฉนวนใยแก้ว ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ได้

8
จัดฟันบางนา: วิธีการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟันระหว่างจัดฟัน

แน่นอน ! ว่าหลังจากติดเครื่องมือ จัดฟัน แล้วจะมีเศษอาหารติดฟันได้ง่ายกว่าปกติ และการทำความสะอาดฟันทำได้ยากขึ้นด้วย อาจจะนำมาซึ่งฟันผุ ซึ่งทุกๆ คนคงไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วหลังจากติดเครื่องมือจัดฟันไป ต้องใส่ใจทำความสะอาดช่องปากมากกว่าเดิม

การแปรงฟัน

    เลือกใช้แปรงสีฟันที่อ่อนนุ่ม
    เริ่มแปรงส่วนบนของเครื่องมือจัดฟัน และส่วนล่างของเครื่องมือจัดฟัน ในลักษณะการเเคลื่อนไหว เป็นวงกลมเล็กๆ

– ค่อยๆ ขยับจากฟันกรามบนขวาแปรงมาทางฟันหน้า แล้วจึงขยับไปทางฟันกรามบนซ้าย

– อย่าลืมแปรงฟันด้านเพดาน และด้านสบฟันด้วยค่อยๆ แปรงไม่ต้องรีบนะคะ

    เริ่มแปรงฟันล่างในลักษณะเดียวกัน แปรงส่วนบนของเครื่องมือจัดฟัน และส่วนล่างของเครื่องมือจัดฟัน ในลักษณะการเเคลื่อนไหว เป็นวงกลมเล็กๆ

– ค่อยๆ ขยับจากฟันกรามล่างขวา แปรงมาทางฟันหน้าล่าง แล้วจึงขยับไปทางฟันกรามล่างซ้าย

– อย่าลืมแปรงฟันด้านลิ้น และด้านสบฟันด้วยนะคะ

ในบางกรณีที่แปรงสีฟันมีขนาดใหญ่เกินไป อาจจะต้องใช้แปรงสีฟันขนาดเล็ก หรือใช้แปรงสีฟันชนิดพิเศษ มาใช้ร่วมกับแปรงสีฟันธรรมดาที่เราใช้ปรกติ มาใช้ในตำแหน่งที่แปรงธรรมดาเข้าไม่ถึง

การใช้แปรงซอกฟัน ในขณะที่จัดฟัน จะมีเศษอาหารเข้าไปติดระหว่างเครื่องมือจัดฟันได้ง่ายมาก การใช้แปรงซอกฟัน ก็มีความจำเป็นในการทำความสะอาดฟัน ลักษณะที่เรียวยาวของแปรงซอกฟัน สามารถเข้าไปตามร่องฟัน หรือซอกของเครื่องมือจัดฟันที่ แปรงสีฟันธรรมดาไม่สามารถเข้าถึงได้


การใช้ไหมขัดฟัน

    ค่อยๆสอดไหมขัดฟันเข้าไประหว่าเครื่องมือของแต่ละซี่
    ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดด้านข้างของตัวฟัน และใต้เหงือก ในลักษณะถูขึ้นลงอย่างเบาๆ
    ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งนะคะ

ในบางกรณีที่ไหมขัดฟันนิ่มสอดได้ยาก อาจจะต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า ที่สอดไหมขัดฟัน ร่วมด้วย


9
รถไฟฟ้า ev บีวายดี BYD Atto 2 Standard ปี 2025
N/A

บีวายดี BYD Atto 2 Standard ปี 2025
BYD ATTO 2 รถยนต์ไฟฟ้า Compact B-SUV ภาพลักษณ์สดใส ด้วยดีไซน์ในกลุ่ม Dynasty Series มีขนาดกระทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างคล่องตัว ทั้งยังมีไฟท้ายเสมือนตัวเลข 8 สื่อถึงโชคลาภไม่มีที่สิ้นสุด ภายในเป็นแบบ BYD Intelligent Cockpit ผสานความเป็นสมมาตรและเรียบง่าย จึงสะดวกสบายและใช้งานง่าย มาพร้อมเรือนไมล์ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียขนาด 12.8 นิ้ว ด้านระบบส่งกำลังเป็นแบบอัจฉริยะ 8 in 1 พร้อมติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 45.12 kWh แบบ Cell to Body ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 410 กิโลเมตร (NEDC) ทั้งยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบครัน ทำงานร่วมกับกล้องและเซนเซอร์รอบคันอย่างแม่นยำ

ข้อมูลทั่วไป

แบรนด์              BYD
รุ่น                   บีวายดี BYD Atto 2 Standard ปี 2025
ประเภทรถ           รถอเนกประสงค์ SUV,Electric - EV
ปีที่เปิดตัว           2025
ราคา                 N/A

สเปคละเอียด

มอเตอร์ไฟฟ้า                    มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8 วินาที รองรับ หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo ชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ 6.6 kW, กระแสตรง Fast Charging 65 kW (30-80%) ใน 28 นาที
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)      แรงม้า
ระบบเกียร์                        รูปแบบเกียร์
ระบบเบรค ABS                มี (ระบบเบรกอัตโนมัติ AEB)
ชนิดแบตเตอรี่                  ไฟฟ้า
ความจุแบตเตอรี่                45.12 kWh
ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง  410 กิโลเมตร (NEDC)
น้ำหนักตัวรถ                       -
ประเภทยางรถยนต์                -
ขนาดล้อ (นิ้ว)                  ล้ออัลลอย (16)
ระบบขับเคลื่อน

ดีไซน์

ภายนอก
สปอยเลอร์หลัง
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟท้าย LED
ไฟหน้า LED
ขนาดยางหน้า-หลัง (215/65 R16)
ล้ออัลลอย (16)
ระบบ VtoL (Vehicle to Load)
หลังคา (พาโนรามา)
เซ็นเซอร์ (รอบคัน)

ภายใน
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์

ความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
กุญแจรีโมท (Smart Keyless Entry)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
กล้อง (360 องศา)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) (,ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB)
ระบบเตือนก่อนเปืดประตู Door Open Warning (DOW)
เบรกมือไฟฟ้า
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (เลน)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (-หลัง)

10
ซ่อมบำรุงอาคาร: เคล็ดลับเปิดแอร์ให้ประหยัดค่าไฟ

ในประเทศไทยของเรานั้น มีอากาศที่ร้อนอบอ้าวตตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าฝนหรือหน้าหนาว แต่อากาศก็ยังร้อนได้ตลอด ยิ่งเข้าหน้าร้อนทุกปี ยิ่งร้านไปอีกเป็นทวีคุณ ดังนั้น สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลายบ้านขาดไม่ได้นั่นก็คือ แอร์ ซึ่งกลายเป็นสิ่งขาดไม่ได้ ยิ่งออกนอกห้องแอร์ทีไร ก็ทำให้ร้อนเหงื่อไหลไคลย้อย อาจจะทำให้อารมณ์หงุดหงิดไม่เป็นอันทำงานทำการได้ แต่แม้ว่าจะเปิดแอร์ให้เย็นสบายใจ ก็ต้องมากังวลใจกับค่าไฟที่พุ่งสูงตามอุณหภูมิ เพราะแอร์ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากชนิดหนึ่ง แถมยังต้องมานั่งเสียเงินค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างแพงในการล้างทำความสะอาดแอร์ในแต่ละครั้ง


แต่การล้างแอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟในการใช้งานไปได้เยอะ เพราะเมื่อเราใช้แอร์ไปนานๆก็ จะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก กินไฟมากกว่าเดิมนั่นเอง และถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยด การล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือจะให้ช่างแอร์มาล้างให้สะอาดเอี่ยมอ่องก็จะทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งยิ่งขึ้น และวันนี้เราจะมาพูดถึงเคล็ดลับเปิดแอร์ให้ประหยัดค่าไฟ โดยไม่ต้องปวดหัวกับค่าไฟที่แสนแพงในช่วงสิ้นเดือน เพื่อลดภาระค่าใช้งานในส่วนนี้ไปได้เยอะเลยทีเดียว

สำหรับวิธีการเปิดแอร์ให้ประหยัดค่าไฟในช่วงหน้าร้อนก็มีหลากหลายวิธี ซึ่งวิธีแรกอย่างที่เราทราบกันก็คือ การล้างทำความสะอาดแอร์ เพื่อให้แอร์มีความสะอาด ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยรักษาอายุการใช้งานแอร์ของเราอีกด้วย หลายคงประสบปัญหาที่ว่า แม้จะลดอุณหภูมิแอร์แล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกเย็น นั่นเป็นเพราะว่ามีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่เข้าไปในแอร์เป็นจำนวนมาก นอกจากลดอุณหภูมิยังไงแอร์ก็ไม่เย็น แอร์ยังทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากอีกด้วย ดังนั้น การล้างแอร์แบบจัดเต็ม คือ การถอดล้างโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ด้วย วิธีต่อมาคือ การตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย หลายคนมีความเข้าใจว่าอุณหภูมิแอร์ 25 องศาคืออุณหภูมิที่ประหยัดไฟที่สุด

ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะความจริงแล้วระดับอุณหภูมิ 25 องศาที่คือระดับอุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกสบายที่สุด จึงมีการแนะนำให้ตั้งระดับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา แต่ถ้าใครลองปรับเพิ่มอุณหภูมิเป็น 26-27 องศาแล้วยังรู้สึกสบายตัวอยู่ แนะนำให้ปรับอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟ ถ้าตอนกลางวันอากาศร้อนไม่ไหวจริงๆ อาจจะลองปรับอุณหภูมิเฉพาะในเวลากลางคืนที่อากาศร้อนน้อยกว่า แล้วตั้งเวลาปิดแอร์ 1 ชั่วโมงก่อนตื่นนอน 


แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้แล้ว วิธีต่อมาคือ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ให้ความร้อน ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะหน้าที่หลักของแอร์ คือการทำให้ห้องนั้นมีอุณหภูมิลดลง เพื่อได้อากาศที่เย็นสบาย การนำเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ให้ความร้อน ไปใช้ในห้องนั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้แอร์ ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรุงอาหารด้วยกระทะไฟฟ้า การใช้หม้อต้มน้ำร้อน หรือจะเป็นการใช้เตารีดก็ตาม ซึ่งถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ ก็จะเป็นการช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ทำงานลดลงได้เยอะเลย และที่สำคัญเราควรหลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด

เพราะการเปิดแอร์ในห้องที่เปิดโล่งอย่างห้องโถง ที่มีทางขึ้นบันได ทางเดินไปห้องอื่นๆ ไม่มีประตูกั้น นอกจากแอร์ไม่ค่อยเย็นแล้ว ยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติและค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้น จึงควรเปิดแอร์ในห้องที่เป็นพื้นที่ปิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้แอร์ในห้องโถงจริงๆ ก็ควรติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิด กั้นทางขึ้นบันได และทางเดินไปห้องอื่นๆ รวมถึงปิดหน้าต่าง ม่านให้เรียบร้อย ซึ่งม่านก็ช่วยลดอุณหภูมิจากแสงดอาทิตย์ภายนอก แอร์ทำงานน้อยลง ประหยัดพลังงานและค่าไฟได้เยอะเลยทีเดียว หรือจะใช้อีกหนึ่งที่หลายบ้านมักจะทำกันนั่นก็คือ การใช้พัดลมช่วย เพราะการเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์จะช่วยลดความอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก ยิ่งถ้าเปิดพัดลมช่วยในระหว่างที่เปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วห้อง และถึงแม้จะปรับอุณหภูมิเพิ่มเป็น 26-27 องศา การเปิดพัดลมช่วยจะทำให้แอร์เย็นสบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประหยัดไฟกว่าเดิมได้

ทั้งนี้ ทาง เราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสม หรือก่อนติดตั้งควรดูจากหลายปัจจัยที่จะทำให้แอร์ของเรามีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ถ้ามีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นในอาคาร สำนักงาน หรือในบ้าน  ก็สามารถปรึกษาเราได้ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

11
Doctor At Home: อาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค/อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)

อาหารเป็นพิษ หมายถึง อาการท้องเดินเนื่องจากการกินอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน*

ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะอาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค ซึ่งมีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรค

เชื้อโรคหลายชนิดสามารถปล่อยพิษ (toxin) ออกมาปนเปื้อนอยู่ในอาหาร เมื่อผู้ป่วยกินพิษเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการได้ บางชนิดจะปล่อยพิษหลังจากเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอาหารเข้าไปแบ่งตัวเจริญเติบโตในทางเดินอาหารแล้วผลิตพิษออกมาทำให้เกิดอาการ

มักพบว่าในหมู่คนที่กินอาหารร่วมกัน จะมีอาการพร้อมกันหลายคน ซึ่งมักมีอาการปวดบิดในท้อง อาเจียน และท้องเดิน มีอาการมากน้อยแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคลและปริมาณที่กิน

สาเหตุ

เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษ นอกจากไวรัส พยาธิไกอาร์เดีย อหิวาต์ ชิเกลลา และอะมีบาแล้ว ยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอีกหลายชนิด เช่น

1. สแตฟีโลค็อกคัสออเรียส (Staphylococcus aureus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองฝีตามผิวหนัง อาจพบปนเปื้อนอยู่ในอาหารพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม ขนมปัง เชื้อจะปล่อยพิษ (ซึ่งทนต่อความร้อน) ออกมาปนเปื้อนในอาหาร ผู้ที่กินอาหารเหล่านี้ไม่ว่าจะปรุงให้สุกหรือไม่ก็ตาม ก็จะเกิดอาการอาหารเป็นพิษ โดยมีอาการอาเจียนเป็นอาการเด่น ร่วมกับปวดท้อง ท้องเดิน ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังมีอาการ

2. บาซิลลัสซีเรียส (Bacillus cereus) เชื้อนี้ปล่อยพิษในอาหาร และผลิตพิษหลังจากเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ชนิดหนึ่งปล่อยพิษ (ที่ทนต่อความร้อน) ทำให้เกิดอาการอาเจียนเป็นอาการเด่น พบปนเปื้อนในข้าว (ผู้ป่วยมีประวัติกินข้าวผัดเก่าที่นำมาอุ่นใหม่) ระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง

อีกชนิดหนึ่งปล่อยพิษทำให้เกิดอาการท้องเดินเป็นอาการเด่น พบปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ ระยะฟักตัว 8-16 ชั่วโมง

ผู้ป่วยจะไม่มีไข้และมักจะหายได้เองภายใน 12 ชั่วโมงหลังมีอาการ

3. คลอสตริเดียมเพอร์ฟรินเจนส์ (Clostridium perfringens) เชื้อนี้ปล่อยพิษในอาหาร และผลิตพิษหลังจากเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้ พบปนเปื้อนในเนื้อสัตว์และเป็ดไก่ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ (ไม่ค่อยมีอาการอาเจียน) ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 8-16 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง

4. อีโคไล (enterotoxic E.coli) พบปนเปื้อนในน้ำ เนื้อสัตว์ นม เนยแข็ง สลัด เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้แล้วผลิตพิษออกมา ทำให้เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำเป็นอาการเด่น ร่วมกับปวดท้อง อาเจียน ไม่มีไข้ ระยะฟักตัว 8-18 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน

5. ซัลโมเนลลา (Salmonella) เป็นแบคทีเรียสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ในตระกูลเดียวกับเชื้อไทฟอยด์ แต่มักไม่ทำให้เกิดอาการทั่วร่างกายแบบไทฟอยด์ พบปนเปื้อนในเนื้อวัว เป็ด ไก่ ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้แล้วผลิตพิษออกมา ทำให้มีอาการท้องเดิน มีไข้ต่ำ ๆ บางครั้งมีมูกเลือดปน ระยะฟักตัว 8-48 ชั่วโมง มักจะหายได้เองภายใน 2-5 วัน บางรายอาจเรื้อรังถึง 10-14 วัน

6. วิบริโอพาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahemolyticus) เป็นเชื้อสายพันธุ์หนึ่งในตระกูลเดียวกับอหิวาต์ อาศัยอยู่ในแพลงตอนและปนเปื้อนมากับอาหารทะเล (หอยนางรม หอยแมลงภู่ กุ้ง ปู) ซึ่งเมื่อผู้ป่วยกินอาหารทะเลแบบดิบ ๆ เชื้อก็จะแบ่งตัวในลำไส้และผลิตพิษออกมา ทำให้เกิดอาการท้องเดิน อาเจียน อาจมีไข้ร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือดในเวลาต่อมา ระยะฟักตัว 8-24 ชั่วโมง (อาจนานถึง 96 ชั่วโมง) มักจะหายได้เองภายใน 3-5 วัน

นอกจากนี้ เชื้อนี้อาจเข้าทางบาดแผลที่ผิวหนังของผู้ที่ลงเล่นน้ำทะเล ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ และอาจมีโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อนในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้

7. แคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน (Campylobacter jejuni) พบปนเปื้อนในน้ำ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ เชื้อจะเข้าไปแบ่งตัวในลำไส้เล็กและรุกล้ำเข้าไปในเยื่อบุลำไส้แล้วปล่อยพิษ ทำให้ลำไส้เล็กอักเสบ มีอาการไข้ ถ่ายเป็นน้ำ มีกลิ่นเหม็น และอาจถ่ายเป็นเลือดในเวลาต่อมา ระยะฟักตัว 3-5 วัน มักหายได้เองภายใน 5-8 วัน

อาการ

อาหารเป็นพิษจากเชื้อโรคต่าง ๆ จะมีอาการคล้าย ๆ กัน คือ ปวดท้อง ลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นฉับพลันทันทีหลังกินอาหาร หรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อหรือพิษที่เชื้อปล่อยทิ้งไว้ โดยมีระยะฟักตัวของโรค และอาการที่มีลักษณะเฉพาะ (โดดเด่น) ขึ้นกับเชื้อแต่ละชนิด (ดู "หัวข้อสาเหตุ" ด้านบนประกอบ) เช่น ถ้ามีอาการอาเจียนมาก ไม่มีไข้ และระยะฟักตัว 1-8 ชั่วโมง ก็อาจเกิดจากสแตฟีโลค็อกคัส หรือบาซิลลัสซีเรียส

ถ้ามีไข้ร่วมด้วย และเป็นหลังจากกินอาหารทะเลดิบ ๆ ก็อาจเกิดจากวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส แต่ถ้าเป็นหลังจากกินเนื้อสัตว์หรือเป็ดไก่ ก็อาจเกิดจากซัลโมเนลลา (ระยะฟักตัว 8-48 ชั่วโมง) หรือแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน (ระยะฟักตัว 3-5 วัน)

ถ้ามีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด หรือถ่ายเป็นเลือดตามมา ก็อาจเกิดจากวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส (ระยะฟักตัว 8-24 ชั่วโมง เป็นหลังกินอาหารทะเล) หรือแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน เป็นต้น

โดยทั่วไปถ้าเป็นไม่รุนแรง อาการต่าง ๆ มักจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง บางชนิดก็อาจนานถึงสัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบได้บ่อยก็คือ ภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจรุนแรงถึงเกิดภาวะช็อกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

ในรายที่ติดเชื้อซัลโมเนลลา หากมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีอายุมากกว่า 65 ปี อาจเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้

ในรายที่ติดเชื้อวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส หากมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นโรคตับแข็ง อาจมีการติดเชื้อรุนแรง กลายโลหิตเป็นพิษแทรกซ้อนได้

ในรายที่ติดเชื้อแคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน อาจเกิดปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง กลายเป็นกลุ่มอาการกิลแลงบาร์เรได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรงมักตรวจพบภาวะขาดน้ำ (ดูเพิ่มเติมในหัวข้อ "ภาวะแทรกซ้อน" ด้านบน) ชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาจมีภาวะช็อก ในรายที่มีอาการเล็กน้อยมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน นอกจากบางรายอาจพบว่ามีไข้

ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องนำอุจจาระ สิ่งอาเจียน อาหารและน้ำที่บริโภคไปตรวจหาเชื้อหรือสารพิษ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้ผู้ป่วยงดอาหารแข็ง อาหารรสจัด และอาหารที่มีกากใย (เช่น ผัก ผลไม้) ให้กินอาหารอ่อน หรืออาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำข้าว น้ำหวานแทน

2. ให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้-พาราเซตามอล และให้สารละลายน้ำตาลเกลือแร่

3. ถ้ามีอาการถ่ายท้องหรืออาเจียนรุนแรง หรือมีภาวะขาดน้ำรุนแรง จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ และส่งอุจจาระตรวจหาเชื้อ

4. โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ ยกเว้นในรายที่เป็นรุนแรง หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ หากตรวจพบว่าเกิดจากเชื้ออีโคไล, ซัลโมเนลลา, วิบริโอพาราฮีโมไลติคัส, แคมไพโลแบกเตอร์เจจูไน, อหิวาต์ หรือบิดชิเกลลา แพทย์จะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น นอร์ฟล็อกซาซิน, โอฟล็อกซาซิน, โคไตรม็อกซาโซล, อีริโทรไมซิน, กลุ่มเซฟาโลสปอริน เป็นต้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักหายเป็นปกติภายใน 24-72 ชั่วโมง บางรายอาจนาน 5-7 วัน น้อยรายที่จะมีอาการรุนแรง ซึ่งหากรักษาได้ทันการก็จะหายได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาล่าช้าไปก็จะมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจถึงขั้นเป็นอันตรายได้


การดูแลตนเอง

1. ถ้ามีอาการปวดท้องและถ่ายเป็นน้ำไม่รุนแรง ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ครั้งละ 1/2-1 ถ้วย (250 มล.) บ่อย ๆ ถ้ามีไข้ให้พาราเซตามอล*

2. ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด หรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นจัด
    ถ่ายรุนแรง อาเจียนมาก ปวดท้องรุนแรง หรือดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ได้น้อย (สังเกตพบปัสสาวะออกน้อย และมีสีเข้มอยู่เรื่อย ๆ)
    มีภาวะขาดน้ำค่อนข้างรุนแรง สังเกตพบมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ลิ้นเป็นฝ้าหนา ตาโบ๋ ปัสสาวะออกน้อย
    มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ ใจหวิวใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว

สำหรับทารก มีท่าทางซึม ไม่ร่าเริง กระหม่อมบุ๋ม

    มีไข้เกิน 3-4 วัน หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก หนังตาตก หรือพูดอ้อแอ้
    มีประวัติกินปลาปักเป้า แมงดาถ้วย คางคก เห็ด (ที่สงสัยว่าเป็นเห็ดพิษ) หรือสงสัยว่าเกิดจากการกินสารพิษ
    มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยอหิวาต์
    ดูแลตนเอง 24 ชั่วโมงแล้วไม่ทุเลา 
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ


การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารที่ไม่สด และอาหารที่ไม่สะอาด (เช่น มีแมลงวันตอม คนเตรียมอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลและเนื้อสัตว์

2. กินอาหารสุก ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด

3. หลีกเลี่ยงการกินน้ำแข็งที่ไม่สะอาด ซอส น้ำจิ้มที่ทำทิ้งไว้นาน

4. ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กทุกครั้ง

5. ถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่มิดชิด

6. ผู้ที่มีบาดแผลที่ผิวหนังควรหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้เกิดจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษที่เชื้อโรคปล่อยออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ที่ไม่สด ไม่สะอาด หรือปนเปื้อนจากมือของผู้เตรียมอาหาร ดังนั้นการบริโภคอาหารนอกบ้านต้องเลือกร้านที่มีลักษณะสะอาดและถูกสุขลักษณะ

2. โรคนี้ส่วนใหญ่มักจะมีอาการไม่รุนแรง มักจะหายได้เองใน 24-72 ชั่วโมง การรักษาที่สำคัญ คือ การดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ทดแทนให้มากพอกับน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการถ่ายท้อง

ส่วนน้อยที่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง เป็นนานหลายวัน มีไข้ หรือถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือดร่วมด้วย

3. สำหรับผู้ที่มีอาการอาหารเป็นพิษ (ซึ่งอาจเป็นพร้อมกันหลายคนที่รับพิษพร้อมกัน) หากสงสัยเกิดจากสารพิษร้ายแรง (เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย พิษคางคก พิษเห็ด) หรือโบทูลิซึม หรือมีอาการทางระบบประสาท (เช่น หนังตาตก กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ชัก หมดสติ) ควรนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที



12
โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: สายตาสั้น (Myopia/Nearsightedness)

สายตาสั้น เป็นความผิดปกติของสายตา ที่มีอาการมองใกล้ชัด แต่มองไกลไม่ชัด เป็นภาวะที่พบได้บ่อย (พบได้ประมาณร้อยละ 25 ของเด็กในวัยเรียน) อาจเป็นเพียงตาข้างเดียว หรือ 2 ข้างก็ได้ และสายตาทั้ง 2 ข้างอาจจะสั้นไม่เท่ากันก็ได้

โรคนี้มักพบเป็นกันหลายคนในหมู่ญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน

สายตาสั้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ สายตาสั้นชนิดไม่รุนแรง (ซึ่งพบเห็นเป็นส่วนใหญ่ มีภาวะสายตาสั้นไม่รุนแรง และไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง) และสายตาสั้นชนิดรุนแรง (ซึ่งพบได้น้อย สายตาสั้นค่อนข้างมากถึงรุนแรง และมักมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง)

สาเหตุ

สายตาสั้น มีสาเหตุจากกระจกตามีความโค้งมากกว่าปกติ ซึ่งมีกำลังในการหักเหแสงมากขึ้น ทำให้จุดรวมแสงของภาพของวัตถุที่อยู่ไกลตกอยู่ข้างหน้าจอตา ไม่ตกตรงจอตาพอดี จึงมีอาการมองไกล ๆ ไม่ชัด

  สายตาสั้นยังอาจเกิดจากกระบอกตามีความยาว (ระยะจากกระจกตาถึงจอตา) มากกว่าปกติ ทำให้จุดรวมแสงของภาพของวัตถุที่อยู่ไกลตกไม่ถึงจอตา ทำให้เกิดอาการมองไกลไม่ชัด มักทำให้มีสายตาสั้นที่ค่อนข้างมากถึงรุนแรง

เชื่อว่าความผิดปกติดังกล่าวเป็นสิ่งที่เป็นมาแต่กำเนิดโดยธรรมชาติของคนคนนั้น อาจมีความสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์และเชื้อชาติ

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดอาการสายตาสั้น ได้แก่ การใช้เวลามากในการเพ่งมองวัตถุที่อยู่ใกล้ (เช่น การอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ดูจอคอมพิวเตอร์) หรือการเล่นสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ๆ เป็นประจำ การใช้เวลาในที่กลางแจ้งน้อย


อาการ

สายตาสั้น จะมีอาการมองไกล ๆ (เช่น มองกระดานดำ ดูโทรทัศน์) ไม่ชัด ต้องคอยหยีตา แต่มองใกล้ (เช่น อ่านหนังสือ ดูจอคอมพิวเตอร์) ได้ชัดเจน

  ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะหรือตาล้าจากการเพ่งมองวัตถุที่อยู่ไกล

เด็กที่มีสายตาสั้น อาจมีอาการกะพริบตาบ่อย ใช้นิ้วขยี้ตาบ่อย นั่งดูทีวีใกล้จอ และถ้าสายตาสั้นมาก ๆ อาจมีอาการตาเขร่วมด้วย

สำหรับสายตาสั้นชนิดไม่รุนแรง จะเริ่มมีอาการแสดงในระยะที่เริ่มเข้าโรงเรียน และจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอายุ 25 ปีจึงอยู่ตัวไม่สั้นมากขึ้น สายตาสั้นชนิดนี้จะไม่สั้นมาก และไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง

  ในรายที่เป็นสายตาสั้นชนิดรุนแรง ซึ่งมักเกิดจากมีกระบอกตายาวกว่าปกติมากและอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง อาจพบว่าในระยะแรกจะมีอาการสายตาสั้นคล้ายชนิดไม่รุนแรง แต่จะมีสายตาสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น แม้เลยวัย 25 ปีไปแล้ว หรืออาจพบมีอาการสายตาสั้นขนาดมาก ๆ มาตั้งแต่อายุน้อย (ในวัยรุ่น) จะสังเกตเห็นเมื่อเด็กเริ่มหัดเดิน มักจะเดินชนถูกสิ่งกีดขวาง หกล้มบ่อย ๆ หรือเวลามองดูอะไรต้องเข้าไปใกล้ ๆ จนตาแทบชิดกับวัตถุที่มอง ต้องสวมแว่นหนา ๆ อาจต้องเปลี่ยนแว่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

  สายตาสั้นชนิดรุนแรงที่พบตั้งแต่วัยเด็กดังกล่าว เรียกว่า "สายตาสั้นชนิดร้าย (malignant myopia)" เป็นภาวะที่พบได้น้อย มีความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม


ภาวะแทรกซ้อน

ความบกพร่องในการมองเห็น ทำให้เกิดความบกพร่องในการเรียนและการทำงาน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย (เช่น ขณะขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร)

เด็กเล็กที่มีสายตาสั้นมาก ๆ อาจเกิดอาการตาเขได้

สำหรับสายตาสั้นชนิดรุนแรง อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก เลือดออกที่จอตา เป็นต้น ทำให้ตาบอดได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยด้วยการใช้เครื่องตรวจวัดสายตาและการตรวจสุขภาพตาซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน และอาจวัดสายตาด้วยการทดลองให้มองผ่านเลนส์หลาย ๆ ขนาดเพื่อหาขนาดที่ให้ความคมชัดที่สุด

บางครั้งแพทย์อาจให้ยาหยอดตาขยายรูม่านตา เพื่อเปิดมุมกว้างสำหรับการตรวจภายในลูกตาได้ละเอียด อาจทำให้เห็นแสงจ้า หรือรู้สึกตาพร่ามัวอยู่สักพักใหญ่ และจะหายดีหลังจากยาหมดฤทธิ์


การรักษาโดยแพทย์

ถ้ามีอาการเล็กน้อย และไม่มีอุปสรรคต่อการเรียนหรือการทำงาน แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการและนัดมาตรวจวัดสายตาเป็นระยะ

สำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรียนหรือการทำงาน แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการให้ผู้ป่วยใส่แว่นชนิดเลนส์เว้า หรือเลนส์สัมผัสหรือคอนแทคเลนส์* ตามขนาดสายตาที่ตรวจวัดได้

ในผู้ที่เป็นสายตาสั้นชนิดรุนแรง แพทย์จะนัดมาตรวจวัดสายตา ปรับเปลี่ยนแว่น และตรวจดูภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดตามมาเป็นระยะ

  แพทย์อาจให้การรักษาด้วยการผ่าตัดร่วมกับการใช้เลเซอร์ เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้จุดรวมแสงตกบนจอตาพอดี สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี มีสายตาที่คงที่แล้ว และไม่มีภาวะที่เป็นข้อห้ามในการทำการผ่าตัด การรักษาด้วยการผ่าตัดแบบนี้มีอยู่หลายวิธี

  ที่นิยมได้แก่ วิธีที่เรียกว่า เลสิก (LASIK ซึ่งย่อมาจาก laser assisted in situ keratomileusis) โดยแพทย์จะใช้มีดเฉพาะ (microkeratome) ฝานกระจกตาโดยรอบ และใช้เลเซอร์ (excimer laser) ยิงให้กระจกตาส่วนที่อยู่ตรงกลางแบนลงให้ได้ขนาดที่เหมาะกับระดับของสายตาสั้น

นอกจากนี้ แพทย์อาจรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ** รวมทั้งการผ่าตัดฝังเลนส์เทียม (intraocular lens implant/IOL) โดยแพทย์จะผ่ากระจกตาเป็นรอยเล็ก ๆ แล้วฝังเลนส์ตาเทียมเข้าไปในตาของผู้ป่วย ซึ่งช่วยให้จุดรวมแสงของภาพของวัตถุที่อยู่ไกลตกตรงจอตา ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่ช่วยให้มีสายตาเป็นปกติ สำหรับสายตาสั้นชนิดรุนแรงซึ่งพบได้เป็นส่วนน้อยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

*ผู้ที่มีสายตาผิดปกติ บางคนอาจนิยมใส่เลนส์สัมผัสหรือคอนแท็กต์เลนส์ (contact lenses) ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายชนิด การใช้เลนส์สัมผัสมีข้อควรระวังในการใช้และการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าการใส่แว่น หากใช้ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาและแผลกระจกตา (corneal ulcer) ได้ ก่อนใช้ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกเคืองตา น้ำตาไหลมากกว่าปกติ ตาแดง ตามัว เป็นต้น ควรถอดเลนส์สัมผัสออก และไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

**ในปัจจุบัน นอกจากเลสิก (LASIK) แล้ว ยังมีวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาสายตาสั้นอีกหลายวิธี เช่น Laser-assisted subepithelial keratectomy (LASEK), Photorefractive keratectomy (PRK), Small incision lenticule extraction (SMILE) เป็นต้น ซึ่งมีข้อดี ข้อเสีย ข้อห้ามและข้อควรระวังต่าง ๆ กันไป ควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ได้ความชัดเจนว่าวิธีไหนที่เหมาะกับสภาพของผู้ป่วยแต่ละราย


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการมองไกลไม่ชัด เด็กมีอาการกะพริบตาหรือขยี้ตาบ่อย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นสายตาสั้น ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการสายตาสั้นมากขึ้น หรือใส่แว่นสายตาแล้วยังมองเห็นไม่ชัด
    มีอาการตาล้า หรือปวดศีรษะบ่อย
    สงสัยมีภาวะแทรกซ้อนหรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะมาก ปวดตามาก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลช หรือเห็นจุดดำคล้ายเงาหยากไย่หรือแมลงลอยไปมา เป็นต้น


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างตาที่เป็นมาแต่กำเนิด

อาจลดความเสี่ยงของการเกิดอาการสายตาสั้นลงด้วยการปฏิบัติตัวดังนี้

1. การส่งเสริมให้เด็กวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวช่วงต้นใช้เวลาอยู่ในที่กลางแจ้งให้มากขึ้น โดยสันนิษฐานว่า แสงอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด มีส่วนช่วยยับยั้งไม่ให้กระบอกตามีความยาวมากกว่าปกติ จึงช่วยลดการเกิดสายตาสั้นได้*

2. ดูแลสุขภาพตา เพื่อป้องกันไม่ให้สายตาแย่ลง โดยการปฏิบัติตัวดังนี้

    หมั่นออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ และบริโภคอาหารสุขภาพ โดยลดของมัน ของหวาน ของเค็ม และกินผัก ผลไม้และปลาให้มาก ๆ
    ลดการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลต โดยการสวมแว่นตากันแดดเวลาออกกลางแดดจ้า
    ใส่แว่นสายตาที่เหมาะกับระดับสายตา
    ใส่อุปกรณ์ป้องกันตาเวลาทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของตา (เช่น เล่นกีฬา ตัดหญ้า ทาสี หรือการสัมผัสสารเคมี)
    ควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง (ถ้าเป็นโรคเหล่านี้)
    ป้องกันอาการตาล้า โดยการพักตาเวลาใช้สายตามาก (เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ดูจอคอมพิวเตอร์) ทุก ๆ 20 นาที ให้มองวัตถุที่อยู่ห่างระยะ 20 ฟุต นาน 20 วินาที
    ทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา (เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ) ในที่ที่มีแสงสว่างที่มากพอ
    หมั่นตรวจเช็กสุขภาพตา (ตามที่แพทย์แนะนำ)

ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีสายตาสั้นชนิดไม่รุนแรง อาจไม่ทราบว่าตัวเองมีสายตาผิดปกติเนื่องจากไม่มีอาการที่เด่นชัด ดังนั้น แนะนำว่าคนทั่วไปทั้งเด็กและผู้ใหญ่ควรตรวจวัดสายตาเป็นระยะ ตามโรงเรียนต่าง ๆ ควรมีแผ่นวัดสายตา (ที่นิยมใช้กันคือ Snellen chart) ไว้ตรวจวัดสายตานักเรียนทุกคน ถ้าพบว่าผิดปกติ จะได้ส่งเด็กไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล

  2. ผู้ที่เป็นสายตาสั้น จะใส่แว่นประจำหรือไม่ก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสายตา ความเชื่อที่ว่าใส่แว่นประจำหรือเปลี่ยนแว่นบ่อย ๆ ทำให้ตาสั้นมากขึ้นจึงไม่เป็นความจริง ถ้าสายตาจะสั้นมากขึ้นก็เพราะธรรมชาติของคนคนนั้น โดยทั่วไปเมื่ออายุประมาณ 25 ปี สายตามักจะอยู่ตัว ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย


13
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ช่วยให้ฟันเรียงตัวอย่างรวดเร็ว

การจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการสบฟันที่ผิดปกติ การเกิดฟันห่าง ฟันล้ม ฟันซ้อนเก ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันนั้น สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว หากเราพูดถึงเรื่องของการจัดฟัน แน่นอนว่าหลายคนคงคิดถึงการจัดฟันที่สวมใส่เหล็กจัดฟัน ซึ่งแก้ไขปัญหาฟันที่มีความผิดปกติได้ แต่โดยปกติแล้วการขึ้นของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น รวมทั้งการรักษา โดยจะเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและสบฟันผิดปกติ ดูไม่สวยงาม ดูไม่เป็นระเบียบ รวมถึงโครงสร้างและรูปร่างของใบหน้า เช่น หน้าอูม คางยื่น ให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดีและสวมงามขึ้น

ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้จะช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมได้ เพื่อประโยชน์ในด้านสุขภาพช่องปากและฟัน และเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้นของผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต ฟันจึงเคลื่อนที่ได้ง่าย นี่คือการเข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไป และรูปแบบการจัดฟันในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน การจัดฟันในเด็ก ที่สามารถเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับความผิดปกติของฟันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย จึงช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดปัญหาในอนาคต ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟัน จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี อยากมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติ มีบุคลิกภาพที่ดีและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

แต่ในแง่ของการจัดฟันแบบใส ก็สามารถช่วยให้ผู้เข้ารบการจัดฟัน มีฟันที่เรียงตัวได้อย่างสวยงาม ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้น มีการออกแบบเครื่องมือการจัดฟันเฉพาะบุคคล ทำให้เครื่องมือการจัดฟันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเราสวมใส่เครื่องมือเป้นประจำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็จะยิ่งทำให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์วางไว้ ซึ่งก็มีส่วนช่วยทให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งโดยปกติแล้วระยะเวลาการจัดฟันแบบใส จะใช้เวลาในการจัดฟัน ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคลด้วย ปละก็ขึ้นอยู่กับระเบียบวินัยของผู้เข้ารับการจัดฟันว่า จะมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันหรือไม่  อย่างไรก็ตาม ในการกำหนดการเคลื่อนที่ของฟันในแต่ละซี่ของผู้เข้ารับการจัดฟัน เมื่อฟันเคลื่อนอุปกรณ์จะใช้แรงผลัก ในการดึงออกหรือดันเข้า ซึ่งการจัดฟันใสนั้นก็จะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยเรื่องการจำลองการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อคำนวณทิศทางการเข้าที่ของฟันให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ และช่วยทำให้ผู้เข้ารับจัดฟันได้ใช้งานฟันอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ถ้าหากผู้เข้ารับการจัดฟัน ทำตามข้อปฏิบัติตามทีทันตแพทย์บอก ก็จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่สวยงามได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันและมีประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงช่วยให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีผลการรักษาที่แม่นยำ มีความปลอดภัย เพราะทางเราได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง Invisalign เพื่อให้บริการทางด้านการจัดฟันแบบใส มีความน่าเชื่อถือ เพราะทันตแพทย์จัดฟัน ได้รับการอบรมหลักสูตร Invisalign มาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ดังนั้น จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม มีรอยยิ้มที่สดใสได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

14
บ้านติดรถไฟฟ้า บี ดิสทริค พหลโยธิน (Be District Paholyothin)
เริ่มต้น 2 ลบ.

บี ดิสทริค พหลโยธิน (Be District Paholyothin)
ดีไซน์ใหม่ อารมณ์บ้านเดี่ยว สไตล์ Modern ลงตัวทุกประโยคใช้สอย ด้วยขนาดหน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่เน้นความคุ้มค่า และการใช้งาน ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ทาวน์โฮมทำเลทอง ใจกลางรังสิต ครบครันทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ ตอบโจทย์ความต้องการผู้อาศัย พร้อมเข้าอยู่ พื้นที่ส่วนกลางที่เน้นการใช้งานจริง

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ               บี ดิสทริค พหลโยธิน (Be District Paholyothin)
 เจ้าของโครงการ          เอ เบสท์ เอสเตท
 ราคา                      เริ่มต้น 2 ลบ.

 ประเภทบ้าน           ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล          บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ          22 ไร่ 2 งาน 82 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน            255 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด       3 แบบ
  เนื้อที่บ้าน             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย             ตั้งแต่ 110 ถึง 145 ตร.ม.
 จำนวนชั้น             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 หน้ากว้าง             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน        4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ        2 คัน
 สาธารณูปโภค         สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Co-working space

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       ปทุมธานี, คลองหลวง, ธัญบุรี, ลำลูกกา
 ที่ตั้ง       ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สถานี(บางซื่อ - รังสิต)(ม.กรุงเทพ)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนพหลโยธิน)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า/ตลาด
Future Park รังสิต
Major รังสิต
Zeer รังสิต
Zpell
บุญถาวร รังสิต
Mega Home รังสิต
ตลาดไท

สถานศึกษา
ม.กรุงเทพ
ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

สถานพยาบาล
รพ.ภัทร-ธนบุรี
รพ.เปาโล รังสิต

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 52